กล้องวงจรปิด

รูปภาพของฉัน
บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง รับประกันผลงานตลอดอายุการใช้งาน กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สอบถามได้ที่ Line ID : @CctvBangkok.com

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ข้อกำหนด ข้อห้าม และข้อหา กล้องติดรถยนต์


ข้อกำหนด  ข้อห้าม และข้อหา กล้องติดรถยนต์

กฎหมายจราจรนั้นเป็นเรื่องที่กว้างเพราะไม่ใช้เฉพาะผู้ขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์แต่หมายรวมถึงผู้ที่เดินอยู่บนท้องถนนหรือผู้ที่ไล่ต้อนฝูงสัตว์ตามทางเดินบนท้องถนนด้วย     ตามกฏหมายจราจรนั้นเราไม่ได้จำกัดเฉพาะการขับรถหรือการใช้ทางบนบกไม่ว่าจะเป็นถนนใหญ่หรือตามตรอกซอกซอยต่าง    เราถือว่าเป็นการจราจรทั้งสิ้น   
กล้องติดรถ
ตามกฎหมายจราจรนั้นตำรวจจราจรเราเรียกสองอย่าง  คือ   “เจ้าพนักงานจราจร”  และ   “พนักงานจ้าหน้ที่” “เจ้าพนังานจราจร”   คือข้าราชการตำรวจชั้นสัญญบัตรที่ทางกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าพนักงานจราจร   คือต้องเป็นนายตำรวจยศร้อยตำรวจตรีขึ้นไป “พนักงานเจ้าหน้าที่”     คือตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร  มียศตั้งแต่พลตำรวจ  ทำหน้าที่ควบคุมการจราจรเป็นท้องถนนถือว่าเป็นพนักงานจราจร  หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า  “ตำรวจจราจร”   นั่นเอง   อำนาจของตำรวจจราจรเมื่อพบว่าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัติหรือกฏหมายเกี่ยวกับรถจะว่ากล่าวตักเตือนแก่ผู้ขับขี่หรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ไปยังสถานีตำรวจหรือที่ทำการของเจ้าพนักงานจราจรก็ได้  ยกเว้นในบางกรณีที่ไม่ให้ว่ากล่าวตักเตือน    หรือเช่นกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ก็ให้ติดใบสั่งไว้ที่รถของผู้ขับขี่นั้นเห็นได้อย่างชัดเจน   
                  ผู้ที่โดนใบสั่งจะต้องไปรายงานตัวตามสถานที่กำหนดไว้ในใบสั่งภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับใบสั่งเพื่อเสียค่าปรับ  ถ้าท่านคิดว่าฉีกทิ้งหรือทำลายเสียจะได้ไม่มีหลักฐานขอบอกเลยว่าทางตำรวจมีสำเนาเก็บไว้  ถ้าท่านทำลายอาจมีการเพิ่มอีกหนึ่งข้อหาก็ได้คือมีความผิดฐานทำลายหลักฐานของเจ้าพนักงานได้  แล้วจะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่โตเพิ่มขึ้น
                    กฎหมายจราจรทางบกกำหนดโทษไว้หลายสถานลดหลั่นกันไปตามความหนักเบาของความผิดจะสังเกตได้ความผิดที่มีโทษปรับไม่เกิน  500  บาท  นั้นจะมีข้อหามากที่สุด  เพราะกฎหมายถือว่าความผิดฐานฝ่าฝืนกฎจราจรนั้น  เป็นความผิดเล็กน้อยและโอกาสที่ผู้ใช้รถใช้ถนนจะทำความผิดในข้อหาเหล่านี้มีมาก  จึงได้กำหนดโทษไว้พอเป็นกลาง    คือปรับไม่เกิน   500   บาท   และก็ได้มีการแยกเพื่อให้เกิดความไม่สับสนเมื่อท่านถูกตั้งข้อหาและออกใบสั่งก็จะรู้ได้เลยว่าข้อหาตามใบสั่งมีโทษหนักหรือโทษเบาแค่ไหน   จะได้เตรียมเงินค่าปรับหรือเตรียมยื่นคำร้องขอให้ศาลรอลงโทษท่านได้ทันท่วงที
ถ้าผู้ขับรถถูกยึกใบขับขี่แล้ว  ยังมีสิทธิ์อุทรณ์ต่ออธิบดีกรมตำรวจได้ภายในเวลากำหนด  15  วันนับจากวันถูกยึดไม่ใช่วันที่ผู้ขับขี่รู้ว่าถูกสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่    หากถูกสั่วยึดใบขับขี่แล้วและตำรวจลืมเสนอเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานสอบสวนจนล่วงเลยกำหนดเวลาหกสิบวันนนับแต่วันยึด  ถือว่าผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าว  หมดอำนาจสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่สำหรับการกระทำผิดครั้งนั้นไปในตัว    ตามปกติเมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว   โดยออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้ไว้   ดังนั้นกรณีที่กล่าวข้างต้นจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้  แต่ถ้าเกิดขึ้นก็ต้องปรับเป็นความบกพร่องของตำรวจจราจรผู้เรียกเก็บใบขับขี่ไว้
ผู้ขับขี่รถถูกสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่หลาย    ครั้ง   มีผลในการใช้ดุลพินิจของศาลในการที่จะสั่งให้พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นอีกด้วย   เพราะได้กระทำความผิดกฏหมายจราจรจนถูกผู้บังคับบัญชาการตำรวจสั่งยึดใบอนุญาตหลายครั้งมาแล้ว   ศาลอาจเห็นสมควรให้สั่งเพิกถอนในอนุญาตขับขี่ผู้นั้นได้   เพราะการให้ขับอีกต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายและอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น

การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่   การสั่งไม่ให้ผู้นั้นใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดระยะเวลาหนึ่ง    อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะให้พักมีกำหนดระยะเวลานานเท่าใดก็ได้    ตามความเหมาะสมที่ศาลเห็นสมควรว่าผู้ขับขี่นั้นมีความผิดมากน้อยแค่ไหนและบ่อยเท่าใดหรือทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือมีผู้เสียชีวิต   เป็นต้น
การสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่   เป็นการสั่งไม่ให้ขับขี่รถนั้นได้อีกเลยถือว่าใบอนุญาตขับขี่นั้นถูกยกเลิกเพิกถอนโดยคำสั่งศาลนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง  ถือว่าผู้ขับขี่นั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถประเภทนั้นได้อีกต่อไป   ศาลจะใช้อำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่นั้นได้กระทำผิดกฏหมายจราจรเป็นอาจิณ  หรือกระทำผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรอันเป็นความผิดร้ายแรง   และมีผลต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีงามของประชาชน   ศาลอาจสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เสียเลยก็ได้  เป็นต้น
                     ข้อสังเกตประการหนึ่ง  การที่ตำรวจจราจรเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่รถของท่าน  จะต้องออกใบสั่งให้แก่ท่านถ้าไม่ออกก็ไม่มีสิทธิที่จะยึกใบขับขี่ของท่านได้และจะออกใบแทนใบขับขี่ให้กับท่านเป็นการใช้ได้ชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน   และท่านก็ไปทำการเสียค่าเปรียบเทียบปรับ  ตามความเห็นสมควรแก่ความผิดของท่านที่เจ้าพนักงานจะเห็นสมควรปรับเท่าใด   ท่านจะได้รับใบอนุญาตขับขี่ทันทีก็ต่อเมื่อท่านได้ชำระค่าปรับนั้นแล้ว
                    ส่วนท่านที่กระทำความผิดกฎจราจรและถูกออกใบสั่งบ่อย     ท่านอาจถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้มีกำหนดครั้งละไม่เกิน  60  วันก็ได้   แม้ว่าท่านจะไปพบเจ้าพนักงานสอบสวนภายในเจ็ดวันตามที่กำหนดข้างต้นแล้วก็ตาม  แต่ประวัติการทำผิดกฏหมายจราจรของท่านปรากฏต่อพนักงานสอบสวนที่บันทึกเสนอผู้บังคับบัญชาอาจให้สั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ของท่านไว้ก็ได้  ซึ่งหมายความว่าท่านหมดสิทธิขับรถบนท้องถนนตลอดระยะเวลาที่ใบอนุญาตขับขี่ของท่านถูกยึด

เมื่อท่านขับรถชน  หรือ  เฉี่ยวกันกับรถคันอื่น

 

                  การเฉี่ยวกับการชนเราจะแยกตามความคิดและสามัญสำนึกและวิธีที่ท่านจะปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ  ในที่นี้จะใช้คำว่าชนอย่างเดียวโดยรวมถึงการเฉี่ยวด้วย  เช่น  รถชนกันอย่างไร   ชนกันเมื่อใด   และชนกันที่ไหน
                  ชนกันอย่างไร  ก็ยังแยกออกมาได้อีกว่า   เราชนเขา  เขาชนเรา  หรือว่าเรากับเขาชนกัน     ถ้าเราขับรถไม่ว่าจะเป็นรถยนต์  รถจักรยานยนต์  หรือรถยนต์สามล้อ   ถ้าไปชนเขาหรือทรัพย์สินของผู้อื่น  จะต้องหยุดรถทันทีและให้ความช่วยเหลือตามสมควร  พร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเจ้าพนักงานที่ที่ใกล้ที่สุดทันที  และท่านก็ต้องบอกชื่อนามสกุลพร้อมที่อยู่และทะเบียนรถของท่านให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายด้วย    ถ้าท่านไม่ทำตามนี้ถือว่าท่านหลบหนีตามกฎหมายจราจรให้สันนิษฐานว่าท่านเป็นผู้กระทำความผิด  และรถคันที่ท่านขับอาจถูกยึดไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดอีกด้วยและถ้าเจ้าของรถไม่ออกมาแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานภายใน  6  เดือนนับแต่วันที่เกิดเหตุถือว่ารถนั้นเป็นทรัพย์สินซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิดและให้ตกเป็นของรัฐ  โดยไม่ต้องมีคำพิพากษาของศาลเหมือนความผิดอาญาสถานอื่น  เพราะเป็นไปตามอำนาจกฏหมายโดยตรงเลย
                    กฏหมายได้บังคับให้ต้องหยุดช่วยเหลือและรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ก็เพื่อให้เป็นมาตราการสำหรับช่วยเหลือฝ่ายที่ต้องเสียหาย  ถ้าไม่ได้ชนเพราะความประมาทและไม่ได้ทำผิดกฎหมายบทใด  แล้วมาถูกบังคับให้หยุดรถและช่วยเหลืนี้อฝ่ายที่ถูกชน  บางกรณีฝ่ายที่ถูกชนนั้นเป็นต้นเหตุให้เกิดการชนขึ้น  ก็จะดูเป็นการไม่ค่อยยุติธรรมกับเขาอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
                   เกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายถ้าเรารู้ว่าเราผิดก็ควรที่จะเจรจากับฝ่ายเสียหายเขาดี    แทนที่จะต้องจ่ายมากเขาอาจจะเห็นใจอะไรที่ยอมกันได้เขาก็อาจจะยอมให้ได้    แต่ก็มีบางกรณีที่ผู้ถูกชนที่ตั้งข้อเรียกร้องแพง    ไว้ก่อน  อย่างที่เขาเรียกกันว่าพวกค้าความ    และก็มีเหมือนกันที่ฝ่ายต้องเสียหายบางคนเลือดร้อน  พอถูกชนก็เป็นเดือดเป็นแค้น  ถ้ายิ่งรถที่โดนชนเป็นรถใหม่ด้วยแล้วบางรายถึงกับทำร้ายฝ่ายที่มาชนหรือเฉี่ยวรถตัวเอง  ถ้าเจอกรณีแบบนี้ให้ท่านหนีไปก่อนค่อยไปคุยกันที่โรงพักดีกว่าเพราะถ้าถึงกับจะทำร้ายกันแล้ว  การให้เราหยุดรถช่วยเหลือก็คงเป็นไปไม่ได้  ฉะนั้นท่านก็มีข้ออ้างอันชอบธรรมที่จะหนีไปก่อนได้

                 เขาชนเรา     การที่เขามาชนเราไม่ว่าจะชนตัวเราหรือรถของเรา  ขอให้ท่านจงจำหน้าตาของผู้ที่ขับรถชนท่านก่อนถ้าหน้าตาสุภาพกิริยาเรียบร้อย  เขาเอ่ยขอโทษที่ไม่ได้ตั้งใจรีบถามอาการหรือพาไปหาหมอที่ใกล้ที่สุด  ประเภทนี้ไม่ถามว่าท่านจะเรียกค่าเสียหายเท่าใดก่อนเพราะเขาคิดว่าจะเป็นการดูถูก  จึงเป็นหน้าที่ของท่านที่จะต้องหาทางพูดค่าเสียหายกับเขาเพราะคนประเภทนี้มักจะคิดว่าเป็นความกินขี้หมาดีกว่า  ถ้ามีทางจะชดใช้ค่าเสียหายพอสมควรให้ท่านเร็วได้เท่าใดยิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้น  แต่ถ้าแต่คนไม่ดีมาขับรถชนท่านบางรายลงมาชี้หน้าเท้าสะเอวว่า  ถ้าท่านเจอคนขับรถแบบนี้ก็ย่อมมีความรู้สึกโกรธเป็นแน่  ถ้าท่านเรียกค่าเสียหายแพง    คงไม่มีใครว่าท่านได้   ศาลยุติธรรมก็คงเห็นใจท่าน

                         เรากับเขาชนกัน      หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าประสานงา   การชนหรือการเฉี่ยวกันควไม่มีฝ่ายใดหนีเป็นแน่  ถ้าไม่ถึงกับรถคว่ำฝ่ายที่ได้รับความบอบช้ำน้อยกว่าควรไปแสดงความเสียใจต่อฝ่ายที่ได้รับความบอบช้ำและเสียหายมากกว่าก่อน  เรื่องผิดถูกค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง  เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของมนุษยธรรมอย่างเดียว
                         โดยปกติการชนกันทั้งสองฝ่ายมักมองไม่ออกว่าใครผิดเพราะต่างก็ว่าตนไม่ผิดด้วยกันทั้งสองฝ่าย  จึงควรให้รถของทั้งสองฝ่ายจอดอยู่      ที่เดิมเพื่อรอพนักงานสอบสวนมาทำแผนที่เกิดเหตุเสียก่อน   ถ้าไม่มีฝ่ายไหนบาดเจ็บก็มีแต่การเจรจาทำความตกลงเรื่องค่าเสียหายกัน   ถ้ายอมกันได้ก็จะเรียบร้อย  แต่ข้อสำคัญเมื่อได้ตกลงกันแล้วควรได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อกันการฟ้องร้องเป็นคดีในภายหน้าไว้ด้วย    แต่ถ้ามีผู้บาดเจ็บนั่นถือเป็นคดีอาญาเกิดขึ้นแล้ว  จะมีโทษมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนถึงตายหรือไม่  แต่ถ้าท่านหรือคู่กรณียอมรับตามที่พนักงานสอบสวนชี้   ก็อาจมีการเปรียบเทียบให้ฝ่ายที่ผิดเสียค่าปรับแล้วเสร็จกันไปในชั้นของตำรวจ  ไม่ต้องส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาว่าจะฟ้องอหรือไม่ฟ้องฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่าย  และเรื่องอาจไปถึงที่สุดกันที่ชั้นศาล    ดังนั้นถ้ามีการตกลงค่าเสียหายกันในชั้นสอบสวนจึงควรทำบันทึกข้อตกลงนั้นไว้     ตามปกติพนักงานสอบสวนจะบันทึกความตกลงไว้ในสำนวนสอบสวนทุกคดีไป

ชนกันเมื่อใด
            
                   รถชนหรือเฉี่ยวกันเวลาใด   เวลากลางวันหรือกลางคืน  ถ้าเป็นกลางคืนก็ตอนดึกหรือตอนหัวค่ำ   หรือถ้ากลางวันก็ฝนตกหรือแดดออก    หรือถ้าชนกันในเวลากลางวันถ้าคู่กรณีเจรจากันได้หรือแจ้งตำรวจมาในที่เกิดเหตุก็รวดเร็ว   นอกจากนั้นการชนกันเวลากลางวันย่อมมีพยานบุคคลรู้เห็นเป็นพยานมากกว่ากลางคืน   แต่ถ้าฝนตกแม้จะเป็นกลางวันก็ต้องคำนึงถึงร่องรอยหลักฐานที่เกิดจากการชนให้มาก   เพื่อจะได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบเมื่อเขามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ      ถ้าเกิดเหตุในยามกลางคืนท่านต้องดูให้แน่ใจว่าฝ่ายนั้นประมาทหรือไม่ได้ตั้งใจชนกับท่านแล้วค่อยลงจากรถไปตรวจดูความเสียหาย  และร่องรอยหลักฐาน  เพราะสมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้พวกมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่าง    มากมาย   แต่ถ้าฝ่ายที่ชนเราหนีไปเฉย    ให้เปิดไฟสูงใส่หน้าหรือท้ายรถเขาไว้แล้วพยายามจำหมายเลขทะเบียนรถไว้ให้ขึ้นใจ  เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนจัดการให้ต่อไป
                     ในกรณีที่ท่านขับรถในตอนกลางคืนไปตามถนนและมีรถอีกคันหนึ่งขับตามท่านไปเรื่อย     จนผิดสังเกตและยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางของท่าน  ท่านอาจให้สัญญาณไฟเพื่อให้เขาแซงขึ้นหน้าไป   แต่รถคันหลังยังเกาะความเร็วอยู่ในตำแหน่งเดิมแม้ว่าเราจะเร่งความเร็วก็ยังห่างกันเท่าเดิมแสดงว่าอาจจะถูกสะกดรอยตาม  ในกรณีเช่นนี้หากมีปั๊มหรือชุมชนที่มีแสงสว่างอยู่ข้างหน้าให้ชลอความเร็วหรือจอดรถเพื่อดูหน้าตาของคนในรถที่ตามมาแต่ถ้าเขาหยุดรถหลังเราและหน้าตาไม่เหมือนญาติหรือมิตรสหายของเรา ท่านควรที่จะต้องตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นควรแก่สถานการณ์นั้น ๆ

ชนกันที่ไหน
ถ้ามีเหตุรถชนกันในที่เปลี่ยวไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนต้องนึกถึงเรื่องร้าย    ไว้ก่อน  และถ้าเกิดสงสัยว่าการชนนั้นไม่ได้เกิดจากความประมาท  แต่ดูแล้วเหมือนจงใจเสียมากกว่าให้ท่านขับรถต่อไปก่อน   เว้นแต่ท่านพร้อมที่จะแก้สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้     ถ้าท่านขับรถชนคนหรือสัตว์ในชนบทที่ห่างไกลก่อนที่ท่านจะลงจากรถอย่าดับเครื่องเป็นอันขาด  เพราะพรรคพวกหรือญาติของคนหรือสัตว์ที่ถูกชนอาจมีอารมณ์โกรธท่านเข้ามาทำร้ายท่านได้

 

เมื่อท่านโดนจับ


โดยทั่วไปแล้วตามปกติตำรวจจราจรจะไม่จับเว้นแต่ท่านทำผิดกฎจราจรแล้วไปเถียงหรือต่อสู้ขัดขวาง  ทำให้มีความผิดตามกฏหมายอาญา   ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่กระทำการตามหน้าที่  หรือกรณีที่ท่านขับรถชนคนตายหรือบาดเจ็บท่านจะต้องถูกจับ  เพราะเป็นความผิดอาญาที่มีโทษสูงกว่าความผิดตามกฎจราจร   เมื่อท่านถูกจับจะถูกนำตัวไปโรงพักตำรวจมีสิทธิใส่กุญแจมือหรือไม่ใส่แล้วแต่ดุลพินิจของทางเจ้าหน้าที่จะเห็นสมควรแก่การควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่โรงพัก  และในระหว่างนี้สิ่งที่ท่านควรทำคือ
1.     อย่าเพิ่งให้การหรือพูดใด    กับใครก่อนที่ท่านจะได้ปรึกษากับทนายของท่านเสียก่อน
2.     ถ้าท่านแน่ใจว่าทำผิดจริง  และไม่อย่ากให้เรื่องยืดเยื้อ และในกรณีที่ผู้เสียหายยอมรับค่าเสียหายที่ท่านพอใจจ่ายและไม่ติดใจเอาความ  พนักงานสอบสวนจะทำการเปรียบเทียบปรับให้ท่านแล้วเรื่องก็เสร็จไปในเวลาอันสั้น  แต่ถ้าเป็นความผิดที่เปรียบเทียบปรับไม่ได้  พนักงานก็จะบอกท่านว่าเป็นคดีที่ต้องขึ้นศาลแขวงหรือศาลอาญาหรือศาลจังหวัด   หรือถ้าท่านรับสารภาพตำรวจก็จะส่งตัวท่านให้อัยการฟ้องศาลด้วยวาจาในวันนั้นเลยก็ได้  หรืออย่างช้าอาจไม่เกินวันรุ่งขึ้น
3.     แต่ถ้าท่านแน่ใจว่าไม่ผิดก็ให้ปฏิเสธไว้ก่อน   ในกรณีที่ท่านยังไม่แน่ใจว่าท่านผิดหรือถูกกันแน่   ก็ให้ปฏิเสธไว้ก่อนได้เช่นเดียวกัน  ท่านจะถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงพัก    เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษตำรวจจะควบคุมท่านไว้ได้เท่าเวลาที่จะถามคำให้การ  และที่จะรู้ตัวว่าท่านเป็นใคร  และอยู่ที่ไหน  จากนั้นจะต้องปล่อยตัวท่านไปหรือให้ท่านประกันตัวไปได้  แต่ตำรวจไม่มีสิทธิควบคุมตัวท่านไว้โดยไม่จำเป็น  แต่ถ้าท่านมีความผิดสูงกว่าลหุโทษตำรวจมีอำนาจควบคุมท่านไว้ที่โรงพักไม่เกิน   7   วัน  เมื่อครบกำหนดจะนำตัวท่านไปฝากขังที่ศาลต่อไปครั้งละไม่เกิน  12  วัน
4.     เมื่อท่านปฏิเสธ   ท่านมีสิบทธิที่จะตามหรือโทรศัพท์ไปหาญาติของท่าน  หรือทนายความของท่าน  เพื่อขอคำปรึกษาหารือจากบุคคลเหล่านั้นได้   รวมทั้งขอให้เขามาประกันตัวท่านไปจากโรงพักได้ด้วย



เมื่อถูกฟ้องศาล

                 
โดยปกติแล้วท่านจะได้พบทนายก่อนที่ท่านจะถูกส่งฟ้องศาลทนายความจะเป็นผู้บอกว่าท่านควรจะปฏิบัติอย่างไร   แต่ถ้าท่านยังไม่ได้พบทนาย   ถ้าศาลสอบถามคำให้การท่านควรปฏิเสธลอยไว้ก่อน   ซึ่งศาลจะนัดสืบพยานโจทก์นับแต่วันนั้นไปราวหนึ่งเดือน  เวลาระหว่างนั้นถือว่าอยู่ในระหว่างพิจารณา   ถ้าท่านไม่ได้ประกันตัว  ท่านจะถูกศาลสั่งขังเรือนจำ  ซึ่งถือเป็นการขังระหว่างพิจารณาในกรณีนี้ท่านมีสิทธิเลือกได้สองอย่าง  คือ
1.     ให้ญาติขอประกันตัวของท่านจากศาลในระหว่างพิจารณา   คดีเกี่ยวกับการผิดกฏจราจรและตามกฏหมายอาญาเกี่ยวกับการจราจร   ศาลมักจะอนุญาตให้ประกันตัวเสมอถ้าท่านมีหลักทรัพย์เพียงพอ
2.     การขอให้การขอรับสารภาพผิดต่อศาล   ซึ่งศาลอาจพิจารณาให้ลงโทษจำคุกท่านได้ในทันที   แต่ในกรณีนี้ก็ยังมีข้อพิจารณาสำหรับการชั่งใจของท่านอีกด้วยตามความผิดที่ท่านกระทำ  และท่านจะสังเกตได้ว่า  ความผิดที่ท่านถูกฟ้องไม่ว่าเป็นความผิดใดนั้น   ศาลมีอำนาจรอการลงโทษท่านได้ทั้งหมด



ของฝากทนายจำเลย

 

สำหรับการขับรถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นสูตรสำเร็จที่มีหลักเกณฑ์บางประการของวิชานิติเวชศาสตร์   เช่น  รอยเบรก   ระยะตัดสินใจ  และระยะห้ามล้อ   อาจมีส่วนให้จำเลยของท่านได้พิสูจน์ความไม่ผิดของเขาก็ได้       ถ้าท่านแน่ใจว่าจำเลยของท่านไม่ผิดหรือไม่เป็นฝ่ายประมาทท่านอาจขอให้ผู้เชี่ยวชาญของศาลมาเบิกความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้  ถึงแม้ว่าจะเป็นหลักวิชาการที่ละเอียดอ่อน      แต่ถ้ากลมกลืนกับร่องรอยหลักฐานอื่น     ในสำนวน   จำเลยของท่านก็ยังมีโอกาสพิสูจน์ความไม่ผิดของเขาได้    เช่น

 การขับและหยุดรถ
โดยปกติทั่วไปการตัดสินใจในการขับรถในเมื่อเกิดอันตรายผ่านหน้าไปในขณะกำลังขับรถนั้น   คิดเป็นระยะเวลาตามที่ใช้กันเป็นสากล  คือ  ¾   หรือ  0.75    วินาที   ถ้าเมาสุราอาจทำให้การตัดสินใจช้าลงกว่าปกติ  อาจเป็น  1  วินาทีหรือมากกว่านั้น    ซึ่งพอสรุปได้ว่า   ถ้าขับรถยนต์มาด้วยความเร็ว   40  กม/ชม.   ถ้าเห็นมีคนตัดหน้ารถ  จึงเหยียบเบรคเพื่อหยดรถจะต้องใช้ระยะทางเท่ากับ  24.03   เมตรโดยประมาณ   รถจึงจะหยุดได้   คือต้องใช้ระยะตัดสินใจบวกกับระยะห้ามล้อมารวมกันตามวิธีคิดนั่นเอง

  
                                               
         




 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น