กล้องวงจรปิด

รูปภาพของฉัน
บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง รับประกันผลงานตลอดอายุการใช้งาน กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สอบถามได้ที่ Line ID : @CctvBangkok.com

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กล้องติดรถยนต์




กล้องติดรถยนต์


มนุษย์พยายามมาหลายร้อยหลายพันปี   หลังจากที่มีรถลากเทียมด้วยม้ามาให้ใช้   เพื่อหาทางที่จะไม่ต้องใช้ม้า   แต่ก็มามีลู่ทางเป็นความจริงขึ้น  เมื่อไม่ถึงสามร้อยปีมานี่เอง    อันที่จริงมีอะไรที่มนุษย์คิดประดิษฐ์ทำขึ้นมาเพื่อหาทางให้มนุษย์สะดวกสบายยิ่งขึ้น   ส่วนใหญ่ก็ต้องช่วยกันคิดช่วยกันพัฒนา  ต่อ    กันมา   อย่างรถที่พามนุษย์สัญจรไปไหนต่อไหนได้   โดยไม่ต้องพึ่งม้าหรือสัตว์อื่น    ช่วยลากจูง   ตามหลักฐานที่ช่วยกันจดไว้ได้ความว่าพลังงานที่นำมาใช้ในรถได้โดยไม่ต้องใช้ม้าลากเป็นอย่างแรกก็คือ   พลังจากน้ำ  โดยการต้มให้เดือดเสียก่อน  แล้วจึงเอาไปน้ำมาเป็นกำลังขับเคลื่อนให้รถแล่นได้อีกทอดหนึ่ง   ได้มีชาวเยอรมันได้ลองเอาเครื่องจักรไอน้ำวางบนรางเลื่อนสำหรับวิ่งบนรางที่ใช้ในเหมืองแร่  และต่อมากก็มีไอเดียเกิดขึ้นคราวนี้ใช้รถจักรไปน้ำลากรถบรรทุกแล่นไปบนราง  อย่างรถที่ใช้ในเหมืองแร่แต่กลายเป็นคนที่โดยสารรถนั้น  และเกิดรถไฟสายแรกในโลกขึ้นเปิดการเดินรถไฟระหว่างเมืองลิเวอร์พูลกับเมืองแมนเชศเตอร์   และทำให้รถไฟได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศยุโรปและอื่น  ๆ 
กล้องติดรถยนต์

                รถไฟได้เข้าแทนที่รถม้าได้บางส่วนแต่ก็ไม่ทั้งหมด   รถไฟให้ความรวดเร็วสะดวกสบายประหยัดเวลาและรายจ่ายได้อย่างที่ไปเทียบกับรถม้าไม่ได้    แต่มีอยู่บางอย่างที่รถไฟยังแทนที่รถม้าไม่ได้  คือ  ความเป็นส่วนตัวที่รถไฟอาจจะมีให้แต่ไม่เท่ารถม้า  และความมีเสรี  จะไปไหนหรือออกเดินทางเมื่อไรได้ตามสบาย
                มนุษย์เริ่มประสบความสำเร็จในการไม่ง้อม้า  และหันมาใช้รถใช้เครื่องจักรไปน้ำและคงจะครองเป็นเจ้าถนนไปอีกเป็นร้อย    ปี   ถ้าไม่บังเอิญมีผู้ที่นำเอาน้ำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์นำมาใช้เป็นพลังงาน    ในประวัติศาสตร์มนุษย์ไม่รู้จะทำอย่างไรกัน้ำมันเที่มีสีดำและเหนียว  นอกจากเอามาจุดไฟให้แสงสว่าง   แล้วต่อมาจึงรู้วิธีจำแนกแยกแยะที่เรียกว่า  “ กลั่น “  น้ำมันดิบอย่างหยาบ    เพื่อให้ได้เป็นน้ำมันต่าง 
                  เครื่องรถยนต์สมัยนี้ส่วนใหญ่ใช้น้ำมัน  ซึ่งถ้าต้องการที่จะประหยัดก็ดัดแปลงมาใช้  “ ก๊าซ “ ได้   ต่อจากนั้นได้มีผู้คิดเครื่องยนต์แบบใหม่โดยเจาะจงให้ใช้  “แก๊สโซลีน”  หรือ “เบนซิน”  เป็นเชื้อเพลิง  ซึ่งมีวงจรกำลังเริ่มด้วยการป้อนส่วนผสมน้ำมันกับอากาศที่เรียกว่า  “ไอดี”   เมื่อมีคนนำเอาเครื่องยนต์ที่ใช้เบนซินเป็นเชื้อเพลิงมาใช้  ซึ่งตอนหลังได้มีบริษัทที่เอาชื่อต้นตระกูลมาใช้   แต่รถที่ทำออกมามากมาย   และมีบริษัทที่ทำรถยนต์เพิ่มมากขึ้นแต่ที่ยิ่งใหญ่และทำรถขายได้มากก็ยังเป็นบริษัทดั้งเดิมนั่นเอง

สิ่งที่เราทุกคนที่มีรถควรทำเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งคือ  การเปิดฝากระโปรงรถเพื่อดูให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนของรถยังดีอยู่   และควรดูว่ามีอะไรที่ต้องเปลี่ยนต้องเติมหรือไม่  เช่น  ดูระดับน้ำในหม้อน้ำ  ยางไม่มีรอยปริรอยแยก   ท่อทางเดินของน้ำในเครื่องยนต์ที่ต้องทนอยู่กับความร้อนมาก     อาจทำให้เนื้อยางจากท่อเกิดการเสื่อมสภาพได้  ถ้าใช้นาน    ควรเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาหรือเกิดรอยชำรุด     ถ้าเป็นหม้อน้ำที่ไม่ได้เป็นแบบปิดตายถ้าไม่เกิดการั่วไหลก็จะไม่มีการพร่องของน้ำแต่ก็ต้องควรเปิดตรวจเช็คดูระดับน้ำ   และก็ควรดูด้วยว่าซีลยางฝาหม้อน้ำยังดีอยู่หรือเปล่าเพื่อป้องกันน้ำรั่วไหลและยังช่วยป้องกันน้ำไม่ให้เดือดง่ายอีกด้วย   ซีลฝาหม้อน้ำมีหน้าที่ทำให้น้ำในหม้อน้ำเดือดช้า  แต่ถ้าไปเปิดฝาหม้ออาจทำให้ความดันในหม้อลงน้ำจะเดือดขึ้นมาทันที  และอาจพลุ่งใส่หน้าได้   ดังนั้นจึงไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำเมื่อเครื่องร้อนจัด  แต่ถ้าจำเป็นมีเหตุที่จะต้องเปิดก็ควรทำอย่างระวังโดยใช้ผ้าหนา    มาโป๊ะแล้วจึงค่อย     หมุนเปิดฝาหม้อน้ำให้ไปน้ำระบายออกทีละนิด ๆ อย่างรีบร้อน    การตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำควรเปิดดูก่อนที่จะติดเครื่องยนต์เพราะเครื่องยังเย็นอยู่
                 
การวัดลมยาง   เช่นเดียวกับการตวจเช็คหม้อน้ำคือควรวัดตอนที่ยางยังเย็นอยู่ถึงจะรู้ว่ามีความดันเท่าไหร่ในยางแต่ละเส้น   ส่วนยางที่แข็งพอดีในขณะที่ยางยังร้อนอยู่ถ้ายางเย็นลงก็จะเกิดอาการยางอ่อน    ยางที่อ่อนเกินไปจะเกิดการ่ชำรุดเสียหายได้ง่ายและเกิดการระเบิดได้ง่ายกว่ายางที่แข็ง   ฉะนั้นเมื่อเดินทางไกลใช้ความเร็วสูงหรือบรรทุกหนักกว่าปกติ  ควรที่จะเติมลมยางให้แข็งไว้ปลอดภัยมากกว่า   

อย่าวางสิ่งของและทรัพย์สินประเจิดประเจ้อไว้ในรถ
มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งได้ไปช็อปปิ้งหลายแห่งและสุดท้ายที่แถวราชดำริเมื่อซื้อของเสร็จก็เดินไปที่รถซึ่งเป็นที่จอดรถ  เมื่อสุภาพสตรีท่านนั้นมองเข้าไปในรถของตัวเองก็เห็นว่ามีผู้ชายที่ไม่รู้จักได้เข้าไปนั่งในรถของตนเอง  จึงได้ไปบอก  รปภ.  และรปภ. 2   คนได้เดินไปที่รถแล้วถามผู้ชายคนนั้นว่าเข้าไปทำอะไรในรถของคนอื่นให้ลงมา    ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเจ้าของรถให้มาเอาของในรถ  รปภ.เลยถามว่าแล้วไหนกุญแจรถและทำไมไม่มีแล้วแถมของในรถก็ถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย  และรปภ.ก็ช่วยกันจับผู้ชายคนนั้นและจะพาไปโรงพักแต่ผู้ชายคนนั้นดิ้นหลุดไปแต่มีพลเมืองดีช่วยกันจับไว้ได้   นับเป็นบทเรียนให้กับใคร    อีกหลายคนที่ชอบวางสิ่งของมีค่าไว้ในรถเพราะเป็นที่ล่อตาล่อใจของพวกมิจฉาชีพควรเก็บไว้ท้ายรถเพราะท่านอาจจะไม่โชคดีแนบนี้ทุกครั้งและอาจจะเจ็บตัวและได้รับอันตรายที่ร้ายแรงก็ได้



อย่ารอให้น้ำลด ขอเตือนเพื่อน    ที่นั่งอยุ่หลังพวงมาลัยทั้งหลาย   ให้คอยตรวจเช็ครถของท่านเสมอเมื่อไปเจอน้ำท่วมยิ่งช่วงหน้าฝนแล้วไปลุยน้ำมาให้รีบนำไปตรวจเช็คว่ามีส่วนไหนมันเสียหายจะได้แก้ไขทันที  ก่อนที่จะเป็นเรื่องเสียน้อยเสียยาก   ไม่ว่าจะเป็นพวกน้ำมันหล่อลื่น   หัวเทียน   ลูกปืน   หรือแม้แต่ยาง   ควรจะให้ช่างตรวจเช็คให้เรียบร้อย  และสิ่งที่ขอเตือนเพื่อน    จะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยว่า   ลูกปืนล้อนี่แหละตัวสำคัญ   เพราะถ้ายังไม่เคยได้ถอดออกมาเช็คเมื่อเจอน้ำท่วมบ่อย    ตอนหน้าฝน  ก็ควรรีบให้ช่างตรวจเช็คเสียทันที  ไม่ต้องรอให้หมดหน้าฝนเพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุจะมานั่งเสียใจได้ในภายหลัง

มหาภัยไฮเวย์ 
ท่านเจ้าของรถหรือผู้ที่ขับรถยนต์ ถ้าท่านจำเป็นที่จะต้องจอดรถข้างทาง  ด้วยเนื่องจากว่ารถของท่านไม่ว่าจะเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์รถยนต์เกิดขัดข้อง  ท่านจะต้องนำเครื่องหมายมาวางไว้ทั้งข้างหน้าและข้างหลังรถ  มีลักษณะเป็นแถบสะท้อนแสงสีแดงอยู่ในพื้นสีขาวรูปสามเหลี่ยม   ถ้าในกรุงเทพ ฯ ก็ให้วางชิดข้างหน้าและข้างหลังรถได้เลย  แต่ถ้าเป็นนอกเขตกรุงเทพฯชานเมืองหรือต่างจังหวัดให้วางห่างจากตัวรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังไม่ต่ำกว่า  50  เมตร  เพื่อความปลอดภัยของท่านและถูกต้องตามกฏหมาย

การหยุดหรือการที่จะจอดรถนั้นมีกฏหมายจราจรบอกไว้อย่างละเอียดว่าจะต้องทำอย่างไรและควรทำให้เป็นนิสัยเคยชิน  หรือแม้กระทั่งสิ่งที่อาจจะเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย   เช่น  การเปิดประตูรถ   ก็ควรที่จะดูหน้าหลังซ้ายขวาทุกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูลงมาอันตรายก็จะไม่เกิดขึ้น   ความประมาทบางครั้งก็ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย  เช่น  จอดรถข้างทางในเวลาค่ำมือเพื่อไปทำธุระส่วนตัวโดยไม่เปิดไฟหรือเปิดไฟกระพริบทำให้รถที่แล่นมาข้างหลังมองไม่เห็นรถที่จอดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน

การส่องไฟให้สัญญาณ
อุปกรณ์ที่ในรถยนต์ทุกคันจะต้องมีก็คือไฟส่องสว่างสำหรับเวลาค่ำคืน     การขับรถในเวลาค่ำ ๆ  มืด ๆ   ตามทางหลางที่ใช้ความเร็วสูง  ควรต้องรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง  เช่นเห็นไฟรถสว่างจ้ามาแต่ไกลอย่างเพิ่งด่วยคิดว่าเป็นรถมอเตอร์ไซด์  แต่ควรจะเปิดไฟใหญ่และใช้ไฟสูงเมื่อยังอยู่ในระยะที่ไกล  และควรจะลดไฟเมื่อเข้ามาใกล้เพราะแสงไฟอาจจะไปเข้าตารถที่สวนทางมาได้ทำให้เกิดอันตราย  และในขณะที่ลดไฟนั้นก็ควรจะสังเกตุว่าไฟดวงเดียวที่เห็นสว่างจ้านั้นเป็นไฟรถมอเตอร์ไซค์หรือไฟรถยนต์กันแน่  ถ้าเห็นว่าเป็นรถยนต์ก็ควรดูว่าไฟที่เห็นดวงเดียวนั้นอยู่ด้านใดข้างซ้ายหรือขวาจะได้กะระยะห่างได้ถูกและปลอดภัยเมื่อเวลาวิ่งสวนกัน    การขับรถในเวลากลางคืนด้วยความเร็วจึงควรใช้ไฟใหญ่เสมอและจะก้มต่ำก็ต่อเมื่อจะเป็นอันตรายแก่สายตาของผู้ใช้ยวดยานอื่น     เช่น  เมื่อมีรถกำลังแล่นสวนทางมาเป็นต้น   และถ้าเป็นการสวนทางในทางโค้งซึ่งไฟจากรถของเราเฉออกนอกทางไม่เข้าตาใครก็ไม่จำเป็นต้องลดไฟให้ต่ำ   ขณะที่ก้มไฟเพื่อความปลอดภัยควรเพ่งสายตาตรวจดูข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  ว่าอาจมีอุปสรรคมีอันตรายที่มองไม่เห็นเมื่อก้มไฟหรือไม่แล้วจดจำเอาไว้เพื่อหลบหลีกหรือแก้ไขได้ทันท่วงที  เช่น   ถ้าเห็นว่าห่างออกไปมีคนหรือสัตว์กำลังจะข้ามถนนควรให้สัญญาณเตือนหรือหลบเลี่ยงได้โดยปลอดภัย

วิธีเป็นเจ้าของรถยนต์  “ มือสอง “
                     การเลือกซื้อรถยนต์มือสองนั้นพอจะมีขั้นตอนแนะนำได้พอสังเขปดังนี้
1.     ดูด้วยตาว่าถูกใจหรือไม่อย่างไร
2.     เปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจดูเครื่องยนต์
3.     ควรตรวจสภาพตัวรถโดยทั่ว  ๆ ให้ละเอียด
4.     ควรพิจารณาราคาดูให้เหมะสมกับสภาพรถ   และสมดุลกับเงินในกระเป๋าหรือไม่อย่างไร
5.     ขอทราบประวัติรถรวมถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับการต่ออายุหรือการโอนของรถ
6.     ของลองขับและลองขึ้นไปนั่งสำรวจภายในรถให้แน่ใจก่อนที่จะตกลงใจแน่นอน
7.     ถ้ามีข้อบกพร่องเล็ก    น้อย     ก็ขอให้ผู้ขายปรับปรุงให้เสียก่อน  แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ต้องเจรจากันให้เรียบร้อยว่าจะเอายังไง
8.     ถ้าจะซื้อเงินผ่อน   ขอทราบชื่อทรัสต์และความน่าเชื่อถือด้วย
9.     การรับประกันหรือช่วงเวลาและเงื่อนไขในการซ่อมฟรี    มีอะไรบ้างควรสอบถอบเพื่อความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อน
การซื้อรถยนต์มือสองไม่ใช่ว่า พิจารณาเพียงราคาให้ถูกไว้เพียงอย่างเดียว   ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ   ใช่ว่าได้ซื้อถูกแล้วจะดีเสมอไป   หรือ  ซื้อของแพงแล้วจะคุ้มค่าเสมอไป   ฉะนั้นควรที่จะไตร่ตรองให้รอบคอบและควรดูให้ดีเสียก่อนที่จะตกลงใจซื้อจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

เพื่อความประหยัดและความปลอดภัย   ควรใช้เท้าขวาให้น้อย 
รถยนต์ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนหรือยี่ห้ออะไรก็ใช้เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์และใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งและเหยียบเบรกด้วยกันทั้งนั้น   ยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินว่ารถยี่ห้อไหนใช้เท้าซ้ายเหยียคันเร่งหรือเบรกเลย  ไม่ว่าคุณจะเป็นคนถนัดข้างไหนก็ต้องใช้เท้าขวาเหยียบเบรกและคันเร่งอยู่ดี เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราก็ควรที่จะใช้เท้าข้างขวาให้น้อยหน่อย ด้วยการทำหน้าที่เหยียบคันเร่งและลดคันเร่ง  ไม่ควรต้องให้ออกกำลังเหยียบเบรกหรือห้ามล้อบ่อย ๆ  ด้วยนอกจากจำเป็นจริง    นอกจากคุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายของรถลงได้แล้วคุณจะมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย     นักขับรถที่ดีมักควบคุมความเร็วของรถด้วยเกียร์และคันเร่งเสียเป็นส่วนใหญ่   ไม่ค่อยจะได้ใช้ห้ามล้อหรือเบรกโดยไม่จำเป็น   เพราะการลดความเร็วของรถด้วยการห้ามล้อจะทำให้เกิดความร้อนที่จานห้ามล้อและจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “เฟด”  คือลื่นไถลจนห้ามล้อไม่อยู่  ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้  การลดความเร็วของรถด้วยการเปลี่ยนเกียร์ให้ต่ำลง  และลดรอบเครื่องยนต์ลงตามความเหมาะสม  เป็นการประหยัดและปลอดภัยกว่าด้วย    ถ้าหากว่าไม่จำเป็นต้องหยุดรถโดยกะทันหันแล้ว  การห้ามล้อชะลอความเร็วด้วยเกียร์ลึเครื่องยนต์จึงปลอดภัยกว่าการเหยียบห้ามล้อ   และถึงจะจำเป็นต้องเหยียบห้ามล้อก็ควรที่จะเปลี่ยนเกียร์เพื่อลดความเร็วเสียก่อนหรือการเปลี่ยนเกียร์ช่วยพร้อมกับการห้ามล้อย่อมเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากกว่าและประหยัดกว่าด้วย
การขับรถโดยการใช้เกียร์และคันเร่ง   สำคัญยิ่งกว่าการเหยียบเบรกและถือเป็นวิธีที่ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นการขับรถในทางหลวงไกล ๆ  หรืออยู่ในกรุงเทพฯ     การรีบปลดเกียร์ว่างตั้งแต่ยังอยู่ในระยะที่ห่างและยังใช้ความเร็วค่อนข้างสูงและเหยียบห้ามล้อชะลอความเร็วลงนั้นถือเป็นวิธีการขับที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย   
หลักเบื้องต้นของความปลอดภัยในการขับรถยนต์ก็คือ  อย่าปลดเกียร์ว่างเป็นอันขาดในขณะที่รถกำลังเคลื่อที่อยู่   ตราบใดที่คุณยังเข้าเกียร์อยู่เครื่องยนต์จะอยู่ในความควบคุมเพิ่มขึ้นจากการห้ามล้อ  ซึ่งจะช่วยในการห้ามรถให้หยุดง่ายขึ้นและยังช่วยให้หลบหลีกอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยสะดวกยิ่งขึ้น

คู่มือคนหลังพวงมาลัยที่ดี
การที่จะเป็นคนหลังพวงมาลับที่ดีนั้นจะต้องรู้จักวิธีบังคับและขับขี่รถยนต์ให้ไปถึงที่หมายได้โดยสะดวก   ประหยัด  และที่สำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัยนั้นเอง  ซึ่งก็ต้องมีการเรียนรู้ฝึกฝนอะไรอยู่หลายสิ่งอย่างเหมือนกัน

วิธีเป็นคนหลังพวงมาลัย
การที่จะเป็นคนหลังพวงมาลัยที่ดีได้นั้นก็ต้องเป็นคนหลังพวงมาลัยธรรมดา    เสียก่อนก็คือการที่ต้องขับรถเป็นโดยการหัดขับรถด้วยการหัดขับกันเองหรือเรียนกับทางโรงเรียนสอนหัดขับรถยนต์  ซึ่งโรงเรียนสอนหัดขับหรือหัดขับเองก็ไม่ใช่ว่านึกอย่ากหัดไม่ว่าที่ไหน  เมื่อไหร่  ก็หัดได้    มีกฎหมายว่าด้วยการฝึกหัดขับรถยนต์จะต้องหัดขับตอนกลางวันเท่านั้น  และต้องหัดขับในถนนและระยะทางที่นายทะเบียนเป็นผู้กำหนดให้   ต้องมีหนังสืออนุญาตจากนายทะเบียนเสียก่อนจึงหัดขับได้

วิธีการขอใบอนุญาตขับขี่
เมื่อได้ฝึกหัดขับขี่จนคล่องแล้วต่อไปก็ถึงตอน  การขอใบอนุญาตขับขี่ให้ถูกต้องถ้าไม่อยากมือสั่นหรือเหงื่อแตกที่เป็นคุณตำรวจจราจรเรียกและเดินเข้ามาหาและไม่อยากที่จะต้องเสียค่าปรับ    การขอใบอนุญาตต้องไปขอที่กรมการขนส่งของแต่ละพื้นที่   โดยต้องทำตามขั้นตอนที่ทางการกำหนดทั้งเอกสารและการทดสอบรวมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ   และเมื่อสอบผ่านเรียบร้อยแล้วก็ได้เป็นคนหลังพวงมาลัยที่ถูกต้องตามกฏหมาย

การป้องกันอันตรายจากการปะทะขั้นสอง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมักจะมีการปะทะขึ้นสองชั้น  ก็คือ   การปะทะขั้นแรกการที่รถปะทะกับอะไรแล้วหยุดลงแต่เมื่อรถหยดแล้วการปะทะขั้นสองจึงเกิดขึ้นคือการที่คนที่อยู่ในรถยังไม่ได้หยุดแต่พุ่งออกไปข้างหน้าหรือนอกตัวรถซึ่งจะทำให้ได้รับอันตรายอย่างมากอาจถึงกับเสียชีวิตได้ก็ในการปะทะขั้นที่สองนี่แหละเป็นส่วนใหญ่

การรัดเข็มขัดนิรภัยไว้ปลอดภัยกว่า
อันตรายที่เกิดจากการปะทะขั้นที่สองอาจหลีกเลี่ยงได้หรือจากหนักเป็นเบาได้   ถ้าเราคาดเข็มขัดนิรภัยติดตัวไว้กับที่นั่ง    เวลาที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกันอันตรายที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับคนที่อยู่ในรถก็คือการกระเด็นออกมานอกรถ  แต่ถ้าขาดเข็มขัดนิรภัยอาจลดอันตรายการจากเสียชีวิตอาจเป็นเพียงเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต  ยกเว้นเกิดไฟไหม้หรือตกลงในน้ำ  แต่ก็มีวิธีการปลดเข็มขัดนิรภัยแบบง่าย    ซึ่งก่อนใช้ควรศึกษาและสิ่งที่สำคัญและจำเป็นกว่าคือเข็มขัดนิรภัยที่ใช้ต้องให้ความปลอดภัยจริง   และติดตั้งอย่างมั่นคง      การมีเข็มขัดนิรภัยแล้วไม่ใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร   ฉะนั้นเรามารณรงค์ให้คนไทยหันมาใช้เข็มขัดนิรภัยจนเกิดเป็นความเคยชินเหมือนเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองจะดีกว่า

เครื่องมือและอะไหล่อะไรบ้างที่ควรมีติดไว้ในรถ การใช้รถยนต์ก่อนออกเดินทางควรที่จะตรวจตราให้ดีว่ามีอะไรที่เสียหรือชำรุด  เช่น  ไฟหน้า   -  หลัง   ที่ปัดน้ำฝน  โช้คอัพ  และอื่น      ไม่ใช่ขับ    ไปได้ครึ่งทางต้องไปจอดเสียกลางทาง  และการแก้ไขย่อมแล้วแต่ความสามารถและอุปกรณ์และอะไหล่เครื่องมือที่มีไว้ในรถของแต่ละคน  ควรเตรียมติดไว้ในรถบ้างดังนี้
1.     ยางอะไหล่
2.     แม่แรงยกรถ
3.     ประแจไขน๊อตล้อ
4.     เชือกไนล่อนยาวพอสมควร
5.     สายไฟ
6.     สายยางหม้อน้ำ
7.     หัวเทียน
8.     ฟิวส์
9.     อุปกรณ์ปะยางแบบไม่ต้องใช้ยางใน
10.  สายพาน
11.  น๊อตและสกรู
12.  หีบใส่พร้อมเครื่องมือ
13.  น้ำมันเครื่อง   น้ำมันเบรก  หรือน้ำมันรถ  เพื่อไว้เป็นอะไหล่ 
ใครจะเตรียมอะไรเพิ่มเติมก็แล้วแต่ละท่านและแล้วแต่ระยะทางที่เดินทางหรือเตรียมตามความจำเป็นที่ท่านเคยประสพกับเหตุการณ์นั้น 

ห้ามล้อยังไงจะให้รถหยุด
การพัฒนาของรถยนต์และการที่นักประดิษฐ์พยายามคิดค้นทำให้รถวิ่ง  ก็ต้องมีการพยายามทำให้รถหยุดได้ด้วยเช่นกัเช่นกัน   ยิ่งวิ่งเร็วก็ต้องหาทางหยุดให้อยู่ยิ่งขึ้น   รถที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีระบบห้ามล้ออยู่  2  ชนิด คือ “ดรัม เบรก”  และ  “ดิสค์  เบรก”   ส่วนมากในปัจจุบันนี้จะใช้เป็นดิสค์เบรก    เรามาทำความเข้าใจกันเสียหน่อยว่าการที่รถยนต์ที่วิ่งอยู่นั้นจะหยุดได้อย่างไร   จึงหาวิธีห้ามรถให้ช้าลงจนหยุดด้วยการแปรเปลี่ยนให้รถที่พุ่งไปข้างหน้า  ให้กลายเป็นความร้อยปล่อยไปในอากาศรถก็จะช้าลง    จนหยุดได้ดังใจหมาย   ผ้าเบรกที่เสียดสีกับจานเบรก   แวลาเหยียบห้ามล้อเป็นตัวการทำให้เกิดความร้อนและทำให้รถช้าลงจนหยุด   ความร้อนที่เกิดขึ้นและปล่อยไปในอากาศเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งหยุดรถได้เร็วเท่านั้น  ดิสค์เบรกจึงห้ามรถให้หยุดได้เร็วดีกว่าดรัมเบรก  เพราะจานเบรกของดิสค์เบรกอยู่ในที่โล่งแจ้งกลางอากาศ  แต่ของดรัมเบรกอยู่ในจานเบรก  ความร้อนระบายออกได้ไม่สะดวกพอร้อนมาก ๆ ทำให้จานเบรกพองหนีผ้าเบรกได้  อาการที่ห้ามล้อถูก  ใช้งานหนักจนความร้อนระบายไม่ทันจนไม่ยอมทำงานเฉย    เรียกว่า  “เบรกเฝด”   ซึ่งมักจะเกิดกับดรัมเบรกมากกว่า ดิสค์เบรก
การขับรถในหน้าฝนก็เช่นเดียวกันถ้าลุยน้ำแล้วน้ำเข้าไปในเบรกจนเบรกลื่นห้ามล้อไม่ค่อยอยู่มักเกิดกับดรัมเบรก  แต่ถ้าเป็นดิสค์เบรกจะเสด็จน้ำและกลับห้ามล้ออยู่ได้เร็วกว่า แต่จะมีราคาที่แพงกว่าและยังมีข้อเสียอีกอย่างหนึ่ง  คือ  หนักแรงมากกว่าในเวลาที่เหยียบห้ามล้อ    ทำยังไงจะเหยียบห้ามล้อแล้วไม่ให้ล้อตายเหยียบแรงแค่ไหนถึงจะพอดี   อันนี้ก็ไม่มีใครบอกได้เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน  เช่น   สภาพถนน  ดินฟ้าอากาศ  สภาพยาง  สภาพห้ามล้อ  และรวมถึงน้ำหนักและความเร็วของรถที่วิ่งอยู่ขณะนั้นเป็นเหตุผลสำคัญ

การขับรถบนเขา
ถนนบนเขาเป็นถนนที่คดเคี้ยวฉะนั้นการบังคับรถทั่วไป การควบคุมความเร็วด้วยการเข้าเกียร์และเหยียบคันเร่งไม่ใช่ห้ามล้อ   ทางขึ้นหรือทางลาดชันเราไต่ขึ้นไปด้วยเกียร์ไหนเวลาลงก็ควรที่จะลงด้วยเกียร์นั้น   เมื่อเราทำเช่นนี้แล้วเราก็จะบังคับความเร็วของรถให้อยู่ในระดับที่เราต้องการได้   โดยที่เราไม่ต้องแตะห้ามล้อเลยแม้แต่น้อย   การขับรถขึ้นบนเขาต้องปฏิบัติตามกฏและตามเครื่องหมายจราจรที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด  และถ้ามองไม่เห็นทางข้างหน้าต้องรีบบีบแตรเพื่อเป็นการเตือนให้รถที่วิ่งสวนมาทราบไม่ว่าจะมีป้ายจราจรบอกหรือไม่ก็ตามเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีแก้เบื่อหรือหลับในเวลาขับรถนาน   
การขับรถที่นั่งแบบเงียบ    สบาย    ไปนาน    เป็นชั่วโมงในระยะทางไกล    สิ่งที่ตามก็คือความเบื่อหน่ายและอาจทำให้ง่วงและตามมาด้วยการหลับใน   การเปิดวิทยุฟังเพลงก็อาจเป็นการกระตุ้นเป็นการแก้ง่วงได้บ้าง   แต่ถ้าไปกับครอบครัวหลาย    คนอาจพอช่วยได้เป็นเพื่อนคุย  ถามคำถามโน้นนี่นั่นพอหายง่วงหายเบื่อได้บ้าง   และรวมถึงท่าที่เรานั่งขับรถก็ควรขยับเนื้อขบัยตัวเปลี่ยนอิริบาบทบ้างอย่านั่งท่าจำเจนาน    ปรับพนักพิงขยับเข้า - ออก เพื่อเป็นการกระตุ้นไม่ให้เบื่อหน่ายจำเจมากจนเกินไป  แต่ถ้าทำแล้วก็ยังไม่หายง่วงก็ควรหาที่จอดรถแวะปั๊มเพื่อล้างหน้าล้างตาหาเครื่องดื่มแก้ง่วงแต่ถ้าไม่ไหวจริง    ก็นอนพักสักงีบเพื่อความปลอดภัย  และการที่เราพอรู้เส้นทางข้างหน้าว่ามีอะไรเป็นอย่างไรก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้  เช่น  อีกประมาณ  300   เมตรข้างหน้ามีการก่อสร้างทางหรือมีการซ่อมทางก็ทำให้เราเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

การขับรถในเวลากลางคืน
มีหลายท่านที่ชอบขับรถออกต่างจังหวัดเวลาไปทำงานหรือทำธุระในเวลากลางเพราะอากาศไม่ร้อนและรถไม่มากเหมือนเวลากลางวัน  แต่ในปัจจุบันนี้เวลากลางจะเต็มไปด้วยรถ   10  ล้อ  และรถบรรทุกคันใหญ่    ฉะนั้นเมื่อขับรถในเวลากลางคืนควรที่จะต้องมีแสงสว่างพอเห็นได้ชัดเจนในระยะสัก  150  เมตร  และใช้ไฟต่ำเมื่อมีรถวิ่งสวนทางมา  การเปิดไฟเป็นการที่ทำให้เราเห็นเขาและเขาก็เห็นเราด้วยเช่นกัน  การออกเดินทางในเวลากลางคืนควรเตรียมและตรวจตราโคมไฟให้เรียบร้อยว่าระดับไฟสูงต่ำพอดีหรือไม่และควรเตรียมไฟฉายเพื่อเกิดฉุกเฉิน    การขับรถกลางคืนในทางที่คดเคี้ยวหรือเป็นทางโค้งให้ใช้วิธีเดียวกับเวลากลางวันคือให้สายตาจับจ้องอยู่ที่ถนนที่เราเลี้ยวไป โดยใช้หางตาระวังทางข้างหน้าเอาไว้ด้วย    เช่นเดียวกันถ้ามีฝนตกก็ทำวิธีเดียวกันและควรระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเพราะถนนลื่นอย่างขับรถเร็วเป็นอันขาดเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้

จะขับยังไงไปยังไงอย่าลืมบอกให้คันอื่นรู้
การขับรถโดยที่ไม่ให้สัญญาณทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากมาย  อย่างเช่นจะเลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ไม่มีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้รถคันหลังได้ทราบทำให้เกิดอุบัติเหตุได้   และการให้สัญญาณอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น  เช่นเปิดไฟสัญญาณเลี้ยวซ้ายก็ต้องเลี้ยวซ้ายไม่ใช่เลี้ยวขวา  เพราะถึงแม้อาจจะไม่เกิดอันตรายแต่ก็อาจจะทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้  ควรเห็นใจรถที่จะออกมาจากซอยการมีไมตรีจิตในการขับรถเพียงยิ้มหรือหยุดให้อีกฝ่ายไปก่อนก็ทำให้เกิดไมตรีจิตที่ดีต่อกัน

 รถไม่ยอมวิ่ง  จะต้องทำยังไง
รถที่วิ่งอยู่ดี    อยู่ ๆ ก็ไม่ยอมวิ่งซะดื้อ ๆ   สิ่งแรกที่เราจะต้องทำทันทีที่ทำได้ก็คือ   นำรถเข้าจอดข้างทางให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้   และอย่าลืมที่จะชำเลืองมองกระจกมองหลังและให้สัญญาณกับรถคันอื่นก่อนเช่นเดียวกับการออกรถตามปรกติ   ต่อจากนั้นค่อยลงมือหาสาเหตุเพื่อแก้ไขเบื้องต้นเท่าที่จะทำได้  และถ้ามันมากเกินความสามารถของเราจึงค่อยหาทางหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น   โดยสาเหตุหลัก    ที่รถไม่ยอมวิ่ง  ก็คือ  น้ำมันหมดแห้งถัง  ควรตรวจเช็คดูบ่อย      ยางรั่ว  ยางแตก  ฯลฯ  เป็นต้น

กระจกหน้ารถแตกจะต้องทำยังไง
กระจกหน้ารถไม่ได้แตกได้ง่าย    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะขับในเมืองหรือต่างจังหวัดเพราะอาจจะมีเศษหินหรืออะไรร่วงหล่นมาทำให้กระจกหน้ารถแตกได้   และสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกเมื่อกระจกหน้ารถแตกก็คือการจอดรถเข้าแอบข้างทางโดยเร็วที่สุด   แต่ถ้ากระจกแตกร้าวทั้งแผ่นให้ต่อยกระจกออกให้หมด  เมื่อกระจกหน้าโหว่แล้ว   และจำเป็นที่จะต้องเดินทางต่อไปให้ปิดกระจกข้างให้สนิททุกบานเพราะอากาศจะอัดแน่นอยู่ภายใน  ทำให้ลมและฝุ่นผ่านเข้ามาในรถน้อยลง   ถ้าฝนไม่ตกแรงมากจริง    ก็จะไม่สาดเข้ามาในรถและถ้าเป็นหน้าหนาวก็ยังอุ่นสบายไม่เย็นมากด้วย

เครื่องยนต์สไตรค์กลางทางจะทำยังไง
ระหว่างนั่งขับรถอยู่นั้น  ควรจะต้องดูเกจ์วัดต่าง    บนหน้าปัดบ้าง เช่น  ความร้อน    ถ้าความร้อนขึ้นมาสูงมากอาจเพราะปั๊มน้ำเสีย  ท่อยางแตก  หรือหม้อน้ำรั่วก็ได้  หรืออาจจะเป็นเพราะสายพานขาด  น้ำมันเครื่องแห้ง  ฯลฯ  ต้องรีบดับเครื่องและหยุดรถโดยเร็ว   ถ้าเกจ์น้ำมันเครื่องตก ก็ต้องรีบหยุดรถดับเครื่องก่อนที่ชาฟท์จะละลาย  หรือถ้าเกจ์ไฟไม่ชาร์จ หรือไฟแดงขึ้นก็ต้องหยุดดูเพราะอาจไม่ใช่ไฟไม่ชาร์จแต่อาจเพราะสายขาด    ข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบการระบายความร้อน   การหล่อลื่น  และระบบไฟ  ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของรถทุกคัน  บางทีมีระบบไฟเตือนก็ไม่ดีเท่าเกจ์มีเข็มวัด   แม้บางครั้งยังไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ก็ต้องจอดแอบข้างทางไว้ก่อนและพยายามแก้ไขหรือขอความช่วยเหลือ   หมดรถก็เหมือนกับหมอคน  โดยการเยียวยาได้ก็ต้องหาสาเหตุของอาการก่อนสาเหตุของรถอาจจำแนกออกได้  3  ประเภทคือ  พวกน้ำมัน   พวกไฟเผาน้ำมัน  และสุดท้ายก็พวกทำให้เย็นเมื่อน้ำมันถูกไฟเผา   อย่างพวกระบายความร้อนก็ต้องดูว่าก่อนที่เครื่องยนต์จะดับนั้นมีความร้อนขึ้นหรือมีน้ำเดือดพุ่ง    ขึ้นหรือเปล่า  ถ้ามีอาการเครื่องร้อนจัดก็ต้องตรวจดูที่สำหรับระบายความร้อน  เช่น  สายพาน   พัดลม  ท่อน้ำ  ปั๊มน้ำ   ฯลฯ  อะไหล่ที่เสียก็ควรเปลี่ยนซ่อมเสียใหม่ให้เรียบร้อย 



การแข่งแรลลี่เขาเล่นกันยังไง
การแข่งแรลลี่ก็คือการที่เราขับรถจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดหมายปลายทางตามที่ทางผู้จัดแข่งเป็นผู้กำหนด  ภายในระยะเวลาที่ทางผู้จัดการแข่งขันตั้งเงื่อนไขไว้    โดยการเดินทางนั้นระหว่างการแข่งจะควบคุมโดยเวลา    ระยะทาง  และความเร็ว   ตามที่กำหนดในใบที่ทางผู้จัดการแข่งขันออกให้โดยกรรมการจะเป็นผู้มอบให้กับรถแต่ละคันตอนที่จะออกจากจุดเริ่มต้น    ไม่ว่าจะแพ้หรือว่าชนะในการแข่งขันแรลลี่นี้   ซึ่งเพียงแต่ได้เข้าร่วมการแข่งขันก็ถือว่าได้ประโยชน์และเพิ่มปฏิภาณไหวพริบที่ดีมากขึ้นในการขับรถ

การขับรถในเมืองทำอย่างไรที่จะไม่ชนเขาและเขาก็ไม่ชนเรา
การขับรถในเมืองถ้าเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่ค่อยร้ายแรงเท่ากับตามทางหลวงต่างจังหวัดแต่ก็จะมีการกระทบกระทั่งโดยการเฉี่ยวหรือชนแต่ไม่รุนแรงนั้นบ่อยกว่าทางหลวง   ด้วยเหตุนี้เราจึงควรหาวิธีที่จะไม่ให้เกิดขึ้นหรือเกิดก็น้อยเท่าที่จะทำได้  ฉะนั้นการขับรถเพื่อไม่ให้ชนใครอย่างเดียวจึงยังไม่พอ  ต้องหาวิธีที่ขับยังไงไม่ให้เขามาชนเราได้ด้วย   การขับรถให้ปลอดภัย  เช่น  เมื่อถึงตามทางแยกซึ่งในเมืองหลวงมีมากมายซึ่งบางที่ก็มีไฟจราจรบางที่ก็ไม่มีหรือมีวงเวียนด้วยตามกฏจราจรเราต้องให้รถที่มาจากทางด้านซ้ายผ่านไปก่อน  เว้นเสียแต่ว่าจะมีประกาศจากเจ้าพนักงานจราจรกำหนดไว้ว่าให้ทางไหนเป็นทางเอก   และทางไหนเป็นทางโท  ซึ่งรถที่มาทางเอกจะได้ไปก่อน    อีกสิ่งที่ควรจะต้องปฏิบัติให้เป็นนิสัยคือเรื่องไฟเขียวไฟแดงตามทางแยกถ้าเห็นไฟเหลืองก็เตรียมหยุดได้ไม่ใช่เหยียบคันเร่งให้เต็มที่เพื่อหนีให้พ้นก่อนที่จะเป็นไฟแดง   และอีกจุดหนึ่งที่ต้องระมัดระวังเวลาขับรถในกรุงเทพฯก็คือ  ถนนที่มีป้ายห้ามเลี้ยว หรือ ห้ามวนกลับ  เพราะอันที่จริงแล้วป้ายห้ามเลี้ยวห้ามวนผู้ขับรถส่วนใหญ่ชอบฝ่าฝืนและไม่ค่อยที่จะปฏิบัติตามกฎ  ถ้าเห็นว่าไม่มีตำรวจจราจรก็มักจะเลี้ยวขวับตัดหน้าไปได้เสมอ     ตามแยกห้ามเลี้ยว   การขับรถถ้าต้องการที่จะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็ควรที่จะเปิดสัญญาณให้ผู้ที่ขับรถตามหลังมาได้ทราบด้วยระยะพอประมาณตามที่กำหนดไม่ใช่เปิดไฟเลี้ยวปั๊บก็เลี้ยวเก็เลี้ยวเลย    ฉะนั้นจากสภาพจราจรสามารถสะท้อนถึงภาพสังคมใจปัจจุบันและอนาคตของบ้านเมืองเราได้เป็นอย่างดี     ฉะนั้นคนขับรถยนต์ที่ดีทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไขจะถือว่าธุระไม่ใช่หรือไม่ใช่เรื่องของฉันอีกต่อไปคงไม่ได้เพราะไม่แน่ว่าเรื่องนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับเราเข้าสักวันก็เป็นได้

ขับรถอย่างไรถึงจะไปได้เร็วและปลอดภัย
การขับรถทุกวันนี้เฉพาะอย่างยิ่งการขับในเมืองใหญ่    อย่างกรุงเทพฯ  มีความจำเป็นที่ต้องแข่งกับเวลาเพราะถ้าออกจากบ้านช้าสัก  5  นาทีอาจทำให้ท่านถึงที่หมายช้าไปเป็นชั่วโมงก็เป็นได้   ฉะนั้นทำอย่างไรเราจะไปถึงที่หมายได้เร็วและปลอดภัย แล้วก็ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือมองค้อนและว่าเราตามหลังเพราะทำผิดกฎหรือไร้มารยาทในการขับรถ   สำคัญคือต้องเริ่มด้วยการใช้รถที่ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงราคาหรือยี่ห้อรถแต่หมายถึงการดูแลรักษารถไม่ใช่ขับ    ออกไปแล้วไปตายกลางทางขวางการจราจรทำให้คนอื่นต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยฉะนั้นรถที่ใช้ต้องอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมใช้งานเสมอ   และควรศึกษาเส้นทางที่เราจะไปหรือมีเส้นทางลัดหรือไม่   และพยายามสังเกตอยู่สมอเเพื่อหาทางให้ไปได้ก่อนแต่ไม่ต้องขับเร็วมากกว่า

เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะทำยังไง
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทั้ง    ที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเกิดกับใครควรที่จะมีสติ   และไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยเเละอันตรายร้ายแรงสิ่งแรกที่ต้องทำคือช่วยชีวิตก่อน  เช่น   กรณีเกิดเหตุรถชนกันต้องช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บก่อนแล้วค่อยเคลื่อนย้ายรถเข้าชิดขอบทางเพื่อไม่ให้ขวางการจราจร     และสิ่งที่คนทั่วไปพอที่จะช่วยเหลือพอที่ได้รับบาดเจ็บได้ก็คือการปฐมพยาบาลเบื้งต้น  เช่น  การห้ามเลือด  การผายปอด  ข้อสำคัญอย่าตื่นตกใจไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือผู้อื่นก็ตาม 
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้งต้องป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน  เช่น  เมื่อเกิดรถชนกันแล้วมีการชลอรถดูหรือมีคนบาดเจ็บอยู่นอกรถแล้วมีรถตามมาไม่ทันสังเกตุหรือมองไม่เห็นทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก  ถ้าเป็นกลางคืนให้รีบหาแสงสว่างทำเป็นสัญญาณให้ผู้ที่ตามมาได้ทราบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น  ถ้าเป็นเวลากลางวันก็ให้รีบหลบเอารถเข้าข้างทางถ้าไม่สามารถขยับรถได้ก็ให้หาอะไรมาทำเป็นเครื่องกั้นให้รู้ว่ามีอุบัติเหตุหรือรถจอดเสียอยู่ข้างหน้า
ส่วนอันดับต่อไปคือการขอความช่วยเหลือ    เมื่อทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้นแล้วและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนแล้วก็รีบขอความช่วยเหลือที่ได้ผลค่อนข้างแน่นอนก็คือตำรวจหรือหน่วยกู้ภัยหรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครตั้งใจหรือต้องการอยากให้เกิด   แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบ  อาจจะเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย  ก็ต้องมีการรวบรวมข้อเท็จจริงต่าง    ที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ  โดยไม่ได้รับความยุติธรรม  โดยมีคำแนะนำดังนี้
1.     อย่างตื่นเต้นตกใจจนเกินไป  ถ้าปลอดภัยแล้วควรให้ความช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บก่อนถ้ามี
2.     ไต่ถามหาผู้ที่เห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด  ซึ่งอาจเป็นประโยชน์แกเราได้  ขอร้องให้เป็นพยานกับเจ้าหน้าที่
3.     จดหมายเลขทะเบียนรถที่เกิดการกระทบกระทั่งกัน  พร้อมชื่อที่อยู่เจ้าของรถนั้นอย่างละเอียด
4.     ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้โทร. ตามหรือเรียกประกันทันที
5.     ถ้าเป็นการกระทบกระทั่งควรพยายามจดจำสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมต่าง    เท่าที่จะทำได้
6.     สังเกตลักษณะของรถอีกฝ่ายโดยละเอียดว่ามีสิ่งใดไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายบ้างถ้าเป็นเวลากลางคืน  ถ้ามีสิ่งที่ผิดปกติให้จดบันทึกไว้ทันที
7.     สังเกตคนขับของรถอีกฝ่ายว่าเมาสุราหรือไม่หรือง่วงนอนหรือไม่  ถ้ามีคนนั่งมาด้วยก็ให้สังเกตด้วย แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ
8.     สังเกตดูให้ละเอียดว่ามีสิ่งอื่น    ได้รับความเสียจากการเกิดอุบัติเหตหรือไม่
9.     รวบรวมสิ่งต่าง     ซึ่งอาจจะหลุดออกจากรถเนื่องจากการชนไว้ด้วย
10.  ถ้าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นในถนนที่มีการจราจรคับคั่ง  ควรรีบนำรถเข้าหลบไว้ข้างถนนโดยเร็ว  เพื่อไม่ให้เป็นที่เกะกะกีดขวางการจราจร
11.  การให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ในการไต่สวนหาสาเหตุในเหตุการณ์  ควรจะพยายามทำใจให้ดีพูดให้ชัดเจนในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น  และควรบันทึกหรือจดจำคำให้การของตัวท่านเองและของผผู้อื่นไว้ด้วย
12.  ถ้าท่านได้ทำประกันรถไว้กับบริษัทประกันภัย  ก็ให้รีบแจ้งให้ประกันรับทราบทันที

สิ่งที่ท่านควรปฏิบัติเมื่อรถชนกัน  แล้วจดจำไว้เป็นข้อสั้น    ดังนี้ คือ
1.     ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
2.     หาพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์
3.     บันทึกทุกสิ่ง  ที่อาจจะมีประโยชน์แก่ท่าน  เฉพาะอย่างยิ่งความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง

เมื่อท่านขับรถชนคนไม่ว่าท่านจะเป็นฝ่ายผิดหรือผู้ที่ถูกชนจะผิดก็ตาม  ท่านควรจะต้องปฏิบัติดังนี้
1.     หยุดรถทันที  การชนแล้วหนี  เป็นการกระทำที่ปราศจากมนุษยธรรมอย่างยิ่งไม่ควรทำ
2.     ถ้าผู้ถูกชนได้รับบาดเจ็บมาก  ให้รับจัดการนำส่งโรงพยายาบาลทันที  ถ้าจำเป็นควรต้องพยายามทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเท่าที่จะทำได้
3.     ถ้าการชนเกิดจากความผิดของผู้ถูกชน  ควรที่จะหาผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์เป็นพยานเช่นเดียวกับกรณีที่รถต่อรถชนกัน
4.     บันทึกทุก  ๆ สิ่งที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ท่าน
5.     ถ้าขณะที่เกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย  ให้รีบนำความไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วหลังจากที่นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
6.     การขับรถชนคน   ไม่ว่าท่านจะผิดหรือถูก   ท่านต้องถูกเป็นจำเลยเสมอ  ฉะนั้นถ้ามีโอกาสท่านควรที่จะหาคนที่มีหลักฐาน   พอจะประกันตัวท่านจากความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย   เมื่อตำรวจสอบเสร็จจะได้ประกันตัวท่านออกมาได้เลย

การจะใช้รถอย่างไรให้ประหยัดเงินในกระเป๋ามากที่สุด
การที่เราจะใช้รถให้ประหยัดเงินในกระเป๋านั้นมีสิ่งสำคัญอยู่   2  ประการคือ   รถที่ขับ   กับคนที่ขับรถ   ซึ่งมีความสำคัญมากพอ    กัน     ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ร่วมมือกันก็จะทำให้สิ้นเปลื้องเงินในประเป๋าของท่าน
รถที่ประหยัด  นั้นคือรถที่เจ้าของหมั่นเอาใจใส่ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี  หมั่นตรวจตราเช็คเครื่องยนต์และส่วนประกอบต่าง     ทำหน้าที่เรียบร้อยที่สุด  ความประหยัดที่เกี่ยวกับตัวรถมีหลายอย่างด้วยกัน  แต่อย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด  คือ  เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน  เครื่องยนต์ที่กินน้ำมันนิดเดียวแต่เครื่องฟิตเรี่ยวแรงดี  การละเลยไม่ดูแลรักษาเครื่องยนต์ตามควรก็จะทำให้เกิดการสิ้นเปลื้อง   ถ้าเอาใจใส่เช่น  เมื่อถึงเวลาที่จะต้องตรวจเช็คเครื่อง   เปลี่ยนไส้กรองอากาศ  ไส้กรองน้ำมัน   ตั้งล้อตั้งศูนย์ถ่วงยางเปลี่ยนยางสลับยางเมื่อถึวเวลา  หรือเมื่อท่านมีรถซื้อรถมาใช้ก็ควรที่จะอ่านคู่มือประจำรถเสียหน่อย  ดูและตามคำแนะนำที่มีให้ไว้ในสมุดคู่มือรถ  จะได้สะดวกสบายปลอดภัยและประหยัดด้วยเมื่อใช้รถ
คนที่ขับรถก็เป็นตัวการสำคัญ  ที่จะทำให้การใช้รถประหยัดหรือไม่เพียงใดการที่ขับอย่างเดียวแต่ไม่ดูแลรักษาก็ทำให้รถเสียหายชำรุดได้  รถยนต์คันเดียวกันอาจลดค่าใช้จ่ายได้ถ้าท่านเปลี่ยนวิธีขับให้ดีให้ถูกต้องเสียใหม่  เช่นเอาตั้งแต่ออกรถถ้าออกแบบนักแข่งรถไม่ใช่จะเปลืองแต่น้ำมันแต่ยางรถ  และเครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องยนต์ต่าง    ก็ทำให้เสียหรือเกิดการชำรุดเสื่อมสภาพได้ง่ายเร็วขึ้น  เป็นต้น   ฉะนั้นการขับรถให้ถูกต้องตามหลักหรือกฏข้อกำหนดไว้หรือตามคำแนะนำที่มีไว้ในคู่มือถือเป็นดีที่สุด

การเลือกเส้นทางไม่ให้เกิดการชนหรือถูกชนน้อยที่สุด
การที่เราจะเลือกเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางก็มีความสำคัญไม่น้อยเพราะนอกจากจะช่วยให้ประหยัดเวลาและทำให้ถึงที่หมายเร็วขึ้นแถมยังปลอดภัยและประหยัดน้ำมันอีกด้วย   ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกเดินทางในเส้นทางที่ผ่านถนนใหญ่มากกว่าที่จะเลือกเข้าไปในตรอกซอกซอยเพราะในถนนใหญ่นั้นถ้ามีรถติดหรือรถตายก็ยังพอหาทางหลบเลี่ยงได้  ถ้าเป็นในซอยละก้อได้ติดแช่อยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้จะเลี่ยงไปทางไหน   และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ผ่านโรงเรียนหรือที่เป็นศูนย์การค้าเยอะ    เพราะทำให้รถติดและมีรถมากเป็นพิเศษ  หรือเส้นทางที่มีการซ่อมแซมถนนหรือสาธารณูปโภคต่าง 

              

  




      




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น