กล้องวงจรปิด

รูปภาพของฉัน
บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง รับประกันผลงานตลอดอายุการใช้งาน กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สอบถามได้ที่ Line ID : @CctvBangkok.com

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

การเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ปี 2018

การเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ปี 2018

1. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด สำหรับปีนี้เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดเริ่มนำเอาวิธีการบันทึกภาพแบบ H.265 เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ครับ หรือบางยี่ห้อการบันทึกภาพเป็นแบบ H.265+ กันแล้ว สำหรับท่านลูกค้าที่กำลังมองหาเครื่องบันทึกใหม่ๆ ก็อย่างลืมถามพนักงานขายนะครับว่า H.265 มีหรือป่าว ส่วนสินค้าที่เป็นการบันทึกแบบ H.264 ก็จะมีการนำออกมาขายแบบลดราคากันกระจาย ลดแบบไม่เอากำไร หรือแค่เอาทุนคืนกันเลยก็ว่าได้ สำหรับบริษัทไหนที่สต็อกสินค้าเอาไว้มากๆ ก็อันตรายหน่อยนะครับ เป็นสินค้าจำพวกกล้องวงจรปิด พวกนี้ไวมาก เทคโนโลยีถือว่าเปลี่ยนกันปีต่อปีเลยทีเดียว การสต๊อกสินค้าเลยเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากมาย  H.265 ข้อดูของมันคือการบีบอันไฟล์ภาพทำได้เล็กลงจากที่เราต้องซื้อ HDD ขนาด 6 TB บันทึกภาพกล้องวงจรปิด 8 ตัวได้ 15 วัน  เมื่อเราใช้เครื่องที่เป็น H.265 เราซื้อเท่าเดิมแต่การบีบอัดไฟล์ภาพด้วยกล้องวงจรปิด วันที่เราได้จะเป็น 30 วันเลย ทำให้เราได้จำนวนวันในการบันทึกที่นานขึ้น ไม่ต้องซื้อ HDD เพิ่มอีก 1 ลูก 6TB เพื่อจะให้ได้ 30 วัน  ข้อดีก็คือช่วยเราประหยัด HD ได้มากเลยครับ  จริงๆ แล้วส่วนตัวผมว่าการบันทึกเป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญมาก ลูกค้าหลายๆ ท่านซื้อกล้องดี เครื่องดี แต่ชอบมาขี้เหนียวเรื่อง HDD ผมว่าไม่ถูกต้องครับ เดียวเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาแล้วการบักทึกมีการผ่านพ้นไปแล้ว มันน่าเสียด้วย
CCTV
การเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ปี 2018


2. เรื่องของ ฮาร์ดดิส กล้องวงจรปิด  ขอย้ำว่าเราต้องใช้ HDD เฉพาะนะครับไม่ใช้ว่าเอารุ่นไหนมาใส่ไปก็ได้ อันนี้ไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อนก็พอได้อยู่แต่เนื่องด้วยงานกล้องวงจรปิดได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลเลยให้ความสำคัญ เลยทำการผลิตสินค้าเพื่องานกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ เพราะการทำงานบันทึกภาพทุกวัน ทุกเวลาเราต้องใช้ HDD แบบชนิดพิเศษ เลยได้เกิด HDD เฉพาะงานกล้องวงจรปิดขึ้นมา  การซื้อฮาร์ดดิสมาใช้งานเราต้องดูความสัมพันธ์กันหลายอย่างครับเช่น  จำนวนวันที่ต้องการบันทึก,   ความละเอียดของกล้องวงจรปิดที่นำมาใช้งานในครั้งนี้มีความละเอียดเท่าไหรบ้าง เช่น 1.3 MP, 2 MP, 4 MP หรือ 4K อันนี้ก็แล้วแต่งบของลูกค้า ว่าสู้ที่เท่าไหรเพราะมีผลกับงบประมาณและก็แลกมาด้วยภาพที่สมจริง คมชัด สุดท้ายก็จะเป็นจำนวนกล้องวงจรปิดที่ใช้งานครับ เช่น 4 ตัว 8 ตัว 16 ตัว หรือมากกว่านั้น  ทุกอย่างจะมีการสัมพันธ์กันทั้งหมดเลย เพื่อที่เราจะได้เลือกขนาดของฮาร์ดดิสที่จะมาใช้งาน

3. ความละเอียดของกล้องวงจรปิด เรื่องนี้เป็นอะไรที่ถูกหยิบยกมาพูดกันมากสำหรับงานกล้องวงจรปิดว่ากล้องมีความละเอียดเท่าไหร ชัดหรือป่าว ยี่ห้ออะไร ลูกค้าหลายๆ ท่านก็ทำการบ้าน ศึกษามาเป็นอย่างดีถถึงความคมชัด ความละเอียด แต่หลายๆ ท่านก็ยังงง คิดว่ากล้องวงจรปิดติดแล้วต้องชัด ต้องมองเห็น ต้องบอกย่างนี้ครับว่าการมองเห็นในสิ่งที่เราต้องการให้เห็น มันมีวิธีคิดค่าออกมาว่าเราต้องใช้กล้องแบบไหน  ไม่ใช้ว่ากล้องทุกตัวจะเห็นเหมือนกัน ตรงนี้ต้องสอบถามพนักงานขายเบื้องต้นก่อน อย่างที่เคยเจอมาลูกค้าติดต้องไว้ริมถนน  ต้องการดูป้ายทะเบียนให้ชัด  ซึ่งผลที่ได้ก็มองไม่ชัดเลยต้องมานั้งประเมินให้ใหม่ อย่างเช่นต้องเพิ่มความละเอียดของกล้องจากแค่ 650 TVL ต้องเปลี่ยนกล้องเป็นระดับ FHD หรือ 2 ล้านพิกเซล ต่อมาก็ต้องเปลี่ยนจุดติดตั้งกล้องให้ขยับเข้าใกล้มากขึ้น และกำหนดจุดจอดรถ รับบัตรรถ  ก็เริ่มที่จะมองเห็นกันได้มากขึ้น

4. เรื่องของหลอดอินฟาเรดครับ  เรื่องการดูภาพได้ในเวลากลางคืนถือเป็นเหตุผลหลักๆ ของผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่คิดจะใช้งานเอาไว้ที่บ้านเลยครับ สมัยก่อนหลอดอินฟาเรดจะเป็นลักษณะเม็ดๆ เยอะแยะไปหมดรอบๆ เลนส์กล้องวงจรปิด แต่เดี่ยวนี้เปลี่ยนไปแล้วครับหลายๆ บจก. เริมมาใช้งานหลอดอินฟาเรดแบบ Aray กันเพราะว่าอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเกือบ 5 ปี  ในการใช้งานแต่ละกล้องๆ ผมว่าอายุการใช้งานน่าจะมากกว่าตัว  CCD เสียอีก  ส่วนหลอดแบบเก่าพวก LED ข้อเสียคือขาดง่าย กินไฟกว่าและให้พลังงานแสงที่น้อยกว่าสู้หลอดที่เป็น Aray  ไม่ได้เลย

5. เรื่องการดูภาพผ่านทางมือถือ ส่วนมากเป็นปัญหาโลกแตกเหมือนกันนะครับ ลูกค้ามีปัญหาหลักๆเลยสำหรับการผู้ภาพผ่านทางมือถือไม่ได้  ดูได้บ้างไม่ได้บ้าง บ้างท่านถึงกับอารมณ์เสียกันเลยทีเดียว  แต่ปีนี้หลายๆ ค่ายกล้องวงจรปิดก็น่าจะมีการพัฒนาการดูออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น มีการทำ Server เป็นของต้นเองให้ใหญ่ขึ้นรองรับการใช้งานกล้องวงจรปิดกันมากขึ้นแนๆ ครับเพื่อให้ลูกค้าได้สะดวกในการดูภาพ  หลายๆ ปัญหาที่เกิดจากการดูภาพไม่ได้ เช่น ลูกค้าเปลี่ยนมือถือ  ลูกค้าเปลี่ยนเร้าเตอร์  ลูกค้าจำรหัสผ่านไม่ได้  อินเตอร์เน็ตมีปัญหา มาบ้างไม่มาบ้าง และสุดท้ายคือเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด เสีย  ซึ่งช่างๆ หลายๆ ท่านก็จะค่อยๆ ทำการตรวจเช็คการทำงานของแต่ระบบ จนกว่าจะเจอครับ แต่ปีนี้น่าจะใช้งานกันง่ายมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ

6. เรื่องของผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ปัญหาตอนนี้ที่เจอบ่อยๆ คือลูกค้าไม่สามารถติดต่อผู้ให้บริการได้อีกแล้ว หายไปไหนแล้วไม่รู้ หรือจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหน  ต้องบอกเลยครับทุกวันนี้ราคากล้องวงจรปิด เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดราคาถูกลงมามาก หลายๆ ที่ใช้วิธีทุบราคา ขายแล้วไปเลย ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเรียกใช้บริการได้ หรือเรียกแต่ละครั้งต้องรอคิวนานๆ  อันนี้เป็นปัญหาที่ลูกค้ามักชอบบ่นๆ ให้ฟังเป็นประจำ เลยต้องบอกอย่างนี้ครับว่าอย่าเอาราคาเป็นตัวตัดสินใจเลย พยายามดูความพร้อมในการให้บริการหลังการขาย มีเจ้าหน้าที่ที่จะคอยช่วยเหลือได้หรือป่าว  อันนี้สำคัญมากครับ  ยังไงฝากเลือกผู้ให้บริการที่เชือถือได้ ทีมงานพร้อม มีประสบการณ์ จะได้ไม่ผิดหวังหลังติดตั้งไปแล้วนะครับ

วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

CCD และ CMOS ทั้งสองตัวเป็นเทคโนโลยีซิปเซ็นเซอร์ที่ใช้ในงานกล้องวงจรปิด

CCD และ CMOS ทั้งสองตัวเป็นเทคโนโลยีซิปเซ็นเซอร์ที่ใช้ในงานกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิด
CCD และ CMOS ทั้งสองตัวเป็นเทคโนโลยีซิปเซ็นเซอร์ที่ใช้ในงานกล้องวงจรปิด

1. ตัว เซ็นเซอร์ CCD มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าตัวเซ็นเซอร์แบบ CMOS
2. ตัวเซ็นเซอร์ของ CCD จะมีวงจรส่วนที่ทำหน้าที่รับแสงแพงอย่างเดียวเลยครับ ต่างจากตัวเซ็นเซอร์กล้องวงจรปิดของ CMOS ต้องทำหน้าที่รับแสงและทำหน้าที่แปลงสัญญาณด้วย  
3. การทำงานในส่วนของตัว CMOS จะมีความซับซ้อนในตัวมันเอง ต่างจากตัว CCD มีความเร็จน้อยกว่า เพราะต้องเสียเวลาในการแปลงสัญญาณ
4. ความนิยมส่วนมากงานกล้องวงจรปิดจะใช้ตัว CCD มากกว่าตัว CMOS เพระให้สีเหมือนจริงกว่า
5. ตัว CCD มีโอกาสเกิดสัญญาณรบกวนน้อยครับตัว CMOS ครับ

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สายสัญญาณกล้องวงจรปิด

สายสัญญาณกล้องวงจรปิด

สายสัญญาณกล้องวงจรปิดถือเป็นอีกหนึงปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก  จริงๆ แล้วใช้กันอยู่สองแบบครับ ถ้าเป็นกล้องวงจรปิดชนิด IP เราก็จะใช้สายสัญญาณกล้องวงจรปิดชนิด UTP หรือที่เรียกกันสาย Lan นั้นเหละครับ  อันนี้ก็จะเป็นการออกแบบงานกล้องวงจรปิดแบบไอพี  แต่สำหรับกล้องวงจรปิดที่เป็นชนิด Analog  สายสัญญาณกล้องวงจรปิดก็จะเป็นแบบ RG6 หรือ Coaxial  เป็นสายนำสัญญาณสำหรับกล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกครับ  สาย RG 6 ประกอบไปด้วย ตัวนำสัญญาณ  เป็นการนำวัสดุมาหุ้มทองแดงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรรบกวน ต่อมาก็จะเป็น ฉนวนหุ้ม  ซึ่งก็ทำหน้าที่ป้องกันสัญญาณรบกวนที่ผมกล่าวไว้เมื่อกี่ครับ อาจจะใช้เป็นโฟม หรือ PE แล้วก็ต่อด้วยเทปอลูมิเนียมอีกที่  สังเกตุว่าหุ้มเยอะมากพอสมควร หลักๆ ก็เพื่อป้องกันทองแดงตรงกลางแกนไม่ให้มีอะไรไปรบกวนสัญญาณนะครับ  สำคัญมาก  ต่อมาก็จะมีอุปกรณ์อีกตัวครับที่สำคัญในการป้องกันทองแดงนั้นก็คือ ซิลด์หรือเส้นถัก ส่วนใหญ่ทำจากอลูมิเนียมและทองแดงแล้วแต่ผู้ผลิตจะเลือกนำมาผลิตกันครับ เป็นตัวป้องกันสัญญาณรบกวนอีกอย่างที่จำเป็ฯและการกระจายสัญญาณออกมาภายนอก จำนวนเส้นทีถักเพื่อป้องกันก็จะมีวิธีการถักหลายแบบครับ  อย่างเช่น 112, 120, 144  จำนวนเส้นที่ถักยิ่งมากก็จะยิ่งช่วยในการนำสัญญาณได้ดี และป้องกันการรบกวนของสัญญาณได้มากเลยทีเดียว ทำให้สายสัญญาณกล้องวงจรปิดเราที่ติดตั้งไปเดินได้ในระยะไกลๆ   สุดท้ายนั้นก็คือตัวเปลือกหุ้มสายสัญญาณกล้องวงจรปิด ครับ อันนี้ก็สำคัญเพราะเห็นได้ด้วยตาเปล่าอยู่ภายนอก ทำมาจาก PVC  ส่วนมากจะ 2 สีครับ คือ ดำ กับ ขาว  แต่ที่นิยมใช้กันก็จะเป็นสีดำ อาจเป็นเพราะมีความเชื่อกันว่าสามารถติดตั้ง ภายนอกอาคารได้ หรือทนแดด ทนฝน ประมาณนี้ครับ  ส่วนตัวผมเองก็เลือกที่จะใช้สายสีดำเหมือนกัน แต่ไม่ใช้อะไรครับ มันไม่สกปรกง่ายเท่านั้นเองในเวลาทำงานภายนอก

สำหรับสายสัญญาณกล้องวงจรปิด แบ่งออกเป็น 3 ชนิดที่นิยมใช้กันมาก ครับ
1. RG59 ข้อดูของสายชนิดนี้คือตัวสายมีลักษณะอ่อน ไม่แข็งเหมือนชนิดอื่น เวลาจัดสายเข้าตู้จะทำได้ดีและง่ายในการใช้งาน ส่วนตัวแล้วทางผมก็จะใช้กันเป็นประจำในการจัดสายเข้าตู้ ในกรณีที่มีจำนวนกล้องเยอะๆ ครับ

2. RG6 สายชนิดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด ใช้กันเป็นประจำสำหรับงานกล้องวงจรปิด เดินได้ในระยะไกลๆ แต่ก็ไม่ควรเกิน 500 เมตรครับ มากกว่านี้ไม่แนะนำให้เดิน เดียวงานเข้า ผมเนี้ยกันมาบ่อยสมัยทำกล้องใหม่ๆ ดื้อ คิดว่ามันได้ ภาพต้องออก เอาเข้าจริงๆ สัญญาณเป็นคลื่นมาเลย  วิธีแก้ก็ต้องไปหาซื้อตัวขยายสัญญาณมาคั้นตรงกลาง แต่มันก็ได้ไม่นานครับ เพราะพอนานๆ เข้าตัวขยายก็จะเสื่อมคุณภาพ มันก็เป็นอีก  บางครั้งก็ต้องตัดสินใจเดินใหม่ หาแนวใหม่ หรือต้องเปลียนจุดกันเลยทีเดียว

3. RG11 อันนี้เหมาะกับการเดินสายในระยะไกลๆ มากกว่า 500 เมตร นิยมใช้กันในสมัยก่อน แต่เดียวนี้ไม่ค่อยเห็นใครใช้แล้ว ส่วนตัวผมถ้าไกลมากก็เปลี่ยนเป็นสาย Fiber Optic ไปเลยมัน 100% มั่นใจกว่าครับ