กล้องวงจรปิด

รูปภาพของฉัน
บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง รับประกันผลงานตลอดอายุการใช้งาน กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สอบถามได้ที่ Line ID : @CctvBangkok.com

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

การเขียนแบบเบื้องต้น สำหรับโกดังสำเร็จรูป หรือบ้านสำเร็จรูป (กล้องวงจรปิด)

การเขียนแบบเบื้องต้น สำหรับโกดังสำเร็จรูป หรือบ้านสำเร็จรูป

                     โกดังสำเร็จรูป ความสำคัญสำหรับช่างก็คืองานเขียนแบบ จะต้องมีการออกแบบ เขียนแบบ อาจกล่าวได้ว่างานเขียนแบบถือเป็นหัวใจของช่างทุกชนิด 

 ในพื้นที่ตามชนบทมีการปลูกสร้างบ้านจะมีการเขียนแบบแปลนบ้านตามพื้นดินที่ใช้ในการปลูกสร้างและดีกว่าที่ทำโดยไม่มีแบบแผนเลย 

 ในปัจจุบันการเขียนแบบงานก่อสร้างถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และมีกฏหมายควบคุมเป็นหลักการ ยังมีมาตรฐานในการออกแบบสิ่งปลูกสร้างให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน มีกฎหมายหลายฉบับและครอบคลุมในงานก่อสร้างทุกเรื่อง

การเขียนแบบเป็นวิชาหนึ่งเพื่อแสดงรูปร่างและลักษณะของสิ่งที่ต้องการผลิตออกมา วิชาเขียนแบบเป็นการแสดงให้เห็นภาพอย่างชัดแจ้ง ทั้งลักษณะรูปร่าง ขนาด และทุกส่วน การเขียนแบบเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในงานช่าง รวมถึงงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ

สำหรับแบบบ้านหรือแบบแปลนก่อสร้างบ้าน คือเอกสารที่ผู้ออกแบบเป็นสถาปนิกได้จัดทำขึ้น ร่วมกับวิศวกร เพื่อบอกถึงรายละเอียดของบ้านหรืออาคาร 

 ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างได้ใช้เป็นแบบบในการก่อสร้างให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งบางครั้งมีการใช้ศัพท์เฉพาะเพื่อบอกคุณลักษณะและรายละเอียกที่เจ้าของบ้านไม่ทราบได้ว่าแบบบ้านของตนเองที่ได้รับมานั้นมีรายละเอียดอย่างไร เช่น

ส่วนประกอบของแบบบ้านพักอาศัย เริ่มต้นจากส่วนประกอบของแบบบ้านจะประกอบไปด้วย

- แบบสถาปัตยกรรม ผู้ที่จัดการในส่วนนี้จะเป็นสถาปนิกที่ให้รายละเอียดในเรื่องของการออกแบบตัวบ้าน ขนาดจำนวนห้อง รวมถึงความสวยงามของบ้าน เช่น แบบผังห้อง รูปด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้างของตัวบ้าน แบบประตู หน้าต่าง บันไดบ้าน เป็นต้น

- แบบวิศวกรรมโครงสร้าง รายละเอียดความแข็งแรงของโครงสร้างตัวบ้าน งานส่วนนี้เป็นหน้าที่ของวิศวกรโครงสร้างหรือฝ่ายโยธาต้องเป็นผู้ออกแบบ 

 เพื่อรองรับแบบสถาปัตยกรรม สถาปนิกได้ออกแบบมาเสร็จเรียบร้อย แบบวิศวรรมโครงสร้างประกอบไปด้วย แบบฐานราก แบบคาน แบบเสา แบบโครงสร้างหลังคา แบบพื้น และงานเหล็กต่าง ๆ เป็นต้น

- แบบวิศวกรรมไฟฟ้า งานระบบไฟฟ้าเป็นรายละเอียดทั้งระบบไฟฟ้าและระบบแสงสว่าง งานส่วนนี้สำหรับบ้านอยู่อาศัยทั่วไปอาจออกกแบบโดยวิศวกรรมโครงสร้างได้ เพราะไม่มความซับซ้อนถึงระดับที่ต้องใช้วิศวกรไฟฟ้าแต่อย่างใด

- แบบวิศวกรรมสุขาภิบาล รายละเอียดของงานด้านสุขาภิบาล เช่น ระบบน้ำทิ้ง น้ำดี และระบบประปา เป็นต้น




 

การประมาณราคา

การคิดคำนวณงบประมาณในการก่อสร้าง ช่างก่อสร้างที่เป็นผู้รับเหมาในอนาคต ต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักของการประมาณราคา 

 เพื่อให้สามารถกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เข้าใจและทำตามระเบียบในการประมูลงาน การประกวดราคา 

 ให้มีความสมเหตุสมผล มีความยุติธรรม และมีจุดคุ้มทุนที่แน่นอน ดังนั้นการประมาณราคาจึงมีความสำคัญที่ช่างก่อสร้างทุกคนควรเรียนรู้หลักการและแนวทางไว้

 เริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบโครงการ ไปจนถึงการเรียนรู้และวิเคราะห์แบบรวมทั้งสเปกของวัสดุและอุปกรณ์และการติดตั้ง

บุคลากรที่มีส่วนรับผิดชอบโครงการก่อสร้าง

1. เจ้าของโครงการ หรือเจ้าของเงินทุนที่ใช้ในการก่อสร้าง

2. ผู้ออกแบบหรือสถาปนิก

3. ผู้บริการโครงการ

4. ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

5. ผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก

6. ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย

7. คนงาน

 
บ้านสำเร็จรูป


1. เจ้าของโครงการต้องการสร้าง


2. ว่าจ้างผู้ออกแบบเพื่อออกแบบโครงการ


3. ว่าจ้างบริษัท Consult / CM มาช่วยบริหารโครงการ


จัดประกวดราคาหาผู้รับเหมา(Bidding)   ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา(Contractor)


4. เปรียบเทียบราคาและด้านเทคนิคของผู้รับเหมา(Consult)

 

ผู้รับเหมา (Contractor)

1. ก่อสร้าง Site Office และ Stone

2. จัดวางระบบเอกสาร (Filing)

3. วางแผนงาน (Schedule)

4. Clear แบบ (ทำ Shop Drawing)

5. ตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ (Material) และเร่งจัดซื้อ

6. จัดหาคนงานและผู้รับเหมาย่อย (Sub Contractor)

7. ติดตั้ง (Installation)

8. ทดสอบ (Commissioning Test)

9. ส่งมอบงานเป็นส่วน ๆ และส่งมอบทั้งหมด

10. เบิกเงินงวด (Payment) พร้อมทั้งส่งรายงาน (Monthly Report)

11. ขอคืนเงินค้ำประกันผลงาน (Retention) พร้อมทั้งทำหนังสือค้ำประกันผลงานไปวาง

ผู้รับเหมาย่อย (Sub Contractor) คนงาน (Worker)

ส่วนประกอบของงานก่อสร้าง

ในงานก่อสร้างจะประกอบไปด้วยงานหลัก ๆ อยู่ 5 ชนิดด้วยกัน คือ


1. งานโครงสร้าง ผู้รับผิดชอบได้แก่ผู้รับเหมาโครงสร้าง เป็นระบบหลักโดยทั่วไปมีมูลค่าประมาณ 50% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมด

2. งานสถาปัตย์หรืองานตกแต่งทั้งภายในและภายนอก ผู้รับผิดชอบในงานนี้ก็คือผู้รับเหมาโครงสร้างทั่วไป มีมูลค่าประมาณ 20% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมด

3. งานระบบไฟฟ้าผู้รับผิดชอบได้แก่ผู้รับเหมาไฟฟ้า ซึ่งปกติจะมีมูลค่าประมาณ 15% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมด

4. งานระบบสุขาภิบาล รับผิดชอบโดยผู้รับเหมาสุขาภิบาล งานในส่วนนี้ส่วนใหญ่จะมีงบประมาณน้อยกว่าส่วนงานอื่น ๆ เว้นแต่ถ้าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีห้องน้ำเป็นจำนวนมาก เช่น โรงแรม เป็นต้น มูลค่าของงานจะอยู่ที่ประมาณ 5% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมด

5. งานระบบปรับอากาศ จะรับผิดชอบโดยผู้รับเหมาปรับอากาศ มูลค่าของการประมาณการจะอยู่ที่การเลือกใช้ขนาดและจำนวนของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีมูลค่าประมาณ 10% ของมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมด

บุคลากรภายในของแต่ละระบบของโครงการ

1. ผู้จัดการโครงการ (Project Manager)

2. วิศวกรโครงการ (project Engineer)

3. วิศวกรประจำหน่วยงาน (Site Engineer)

โฟร์แมน (Foreman)    ช่างเขียนแบบ (Drafman)    ฝ่ายบัญชี (Account Section)   ฝ่ายจัดซื้อ (Purchase Section)     คนงาน (Worker)






สินค้าแนะนำระบบรักษาความปลอดภัย  : กล้องวงจรปิด   รั้วไฟฟ้า   สัญญาณกันขโมย

  

  

งานก่อสร้างระบบ ต้องผ่านการประมวลงาน โดยทั่วไปมีอยู่ 3 แหล่งคือ

1. เจ้าของบ้านโดยตรง จะเป็นการประมูลงานแข่งขันกันระหว่างบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา ปกติจะทำการออกแบบประมาณราคาควบคู่กัน โดยราคางานก่อสร้างที่ได้นั้นเรียกว่า “ราคากลาง”

2. จากบริษัทวิศกรที่ปรึกษา จะนำราคากลางที่ได้จากการประมาณราคามาเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับเหมางาระบบต่าง ๆ โดยทั่วไปจะเปิดประมูลเพื่อหาผุ้รับเหมารับหลัก อาจใช้ผู้รับเหมาโครงสร้างประมูลงานทั้งหมด หรืออาจแยกประมูลระบบต่าง ๆ ออกจากกัน

3. จากผู้รับเหมาหลัก โดยทั่วไปเป็นการเปิดประมูลจากผู้รับเหมาโครงสร้าง ได้ประมูลงานทั้งหมดมาก่อนหน้านี้ เพื่อหาผู้รับเหมางานระบบอื่น ๆ

ขั้นตอนการประมูลงาน

1. การซื้อแบบ

2. การประมาณราคา

3. การนำเสนอราคาประมูล

การซื้อแบบ ต้องใช้หลักฐานหรือเอกสารดังต่อไปนี้

- หนังสือจดหมายเรียกประกวดราคา

- ใบมอบอำนาจซื้อแบบ

- ใบสำคัญการจดทะเบียนในการประกอบกิจการ

- ใบทะเบียนการค้า หรือใบทะเบียนพาณิชย์

- เอกสารหรือหนังสือแสดงผลงานการประกอบกิจการที่เคยสร้างมาแล้ว

- ใบรับรองวิศวกร หรือใบอนุญาต ก.ว.

- เงินสด หรือเช็คตามมูลค่าที่กำหนดไว้ โดยให้เป็นไปตามระเบียบที่แจ้งไว้ในจดหมายเรียกประกวดราคา


 
โรงงานสำเร็จรูป


การประมาณราคา

หลังการซื้อแบบแล้วจะต้องทำการประมาณราคาเพื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินการก่อสร้าง ต้องมีการรวมค่าดำเนินการที่จะต้องใช้จริง รวมถึงกำไรที่ผู้รับเหมาต้องการ ในราคาที่เสนอด้วยเหล่านี้ คือ การคำนวณหาราคาที่ต้องการนำเสนอในการประมูลงานก่อสร้าง

การนำเสนอราคาประมูล จะต้องใช้เอกสารหรือหลักฐานดังต่อไปนี้

1. ซองประจำบริษัท สำหรับใส่เอกสารที่จะต้องส่งทั้งหมด

2. จดหมายเสนอราคา ภายในเนื้อหาของจดหมายจะประกอบไปด้วยเอกสารที่แนบส่งมาพร้อมกัน และราคารวมทั้งหมดที่เสนอ รวมถึงเงื่อนไขการชำระเงินอีกด้วย

3. ใบเสนอราคา คือ ขอบเขตของงานที่รับผิดชอบ บัญชีแสดงรายการวัสดุอุปกรณ์ หรือ BOQ และรายการสิ่งของที่จะต้องใช้ในการดำเนินการก่อสร้าง

4. ใบค้ำประกันธนาคาร ซึ่งจะต้องเป็นตัวเลขตามวงเงินที่ระบุไว้ในสัญญา

5. เอกสารหรือหนังสือ แสดงผลงานการประกอบกิจการที่เคยสร้างมาแล้ว

6. ใบสำคัญการจดทะเบียนในการประกอบกิจการ ใบทะเบียนการค้าและใบทะเบียนพาณิชย์

7. ใบรับรองวิศวกร หรือใบอนุญาต ก.ว.

การประมูลงานมีการแข่งขันกันอย่างมากและมีการทำราคาให้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับเหมาในโครงการนั้น ๆ ผู้เข้าร่วมในการประมูลจึงต้องมีความรู้ และเคล็ดลับบางประการเพื่อใช้ในการประมูลแล้วให้ชนะการประมูล เช่น

1. พฤติกรรมของผู้ว่าจ้าง มีนิสัยอย่างไร ต้องการผู้รับเหมาลักษณะอย่างไร

2. ข้อมูลของบริษัทผู้แข่งขัน ว่ามีจำนวนกี่ราย บริษัทใดต้องการงาน และมีการใช้เส้นสายกันหรือไม่อย่างไร

3. สำรวจดู Site งาน เพื่อให้ประมาณราคาสามารถประมาณราคาได้อย่างถูกต้องครบถ้วน งานที่ต้องมีการติดตั้งภายนอกอาคาร เช่น งานเดินสายเมนไฟฟ้าเข้าสู่ภายในโครงการ แต่บริษัทที่คิดราคาถูกต้องครบถ้วนมักจะมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง

4. ตัวเลขการเสนอราคา ต้องพิจารณาความเหมาะสมทั้งค่าต่อหน่วย ที่มีผลตอนที่งานเพิ่มลดที่อาจเกิดขึ้น ผู้ว่าจ้างจะพิจารณาจากค่ายอดรวมเท่านั้น ค่าต่อหน่วยจะมีผลต่อการพิจารณาน้อย

5. ขอบเขตงานที่ระบุ ควรระบุให้ชัดเจนครบถ้วน ปกติระบุงานติดตั้งที่ไม่ได้ดำเนินการ การติดตั้งที่มีการเลือกใช้เท่านั้น ขอบเขตงานที่ระบุจะมีผลตอนได้งาน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาว่าจ้าง



 

ขั้นตอนของงานประมาณราคา

เมื่อได้รับแบบและสเปกมาแล้วผู้ที่ประมาณราคาจะมีขั้นตอนการทำการประมาณราคา ดังนี้

- การศึกษาและวิเคราะห์แบบรวมทั้งสเปกของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง

- การถอดแบบหรือการถอดปริมาณของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้

- การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการถอดแบบ หรือการทำ Break down Sheet

- การสืบราคาของวัสดุอุปกรณ์

- การทำราคาในรูปของ BOQ

- การศึกษาและวิเคราะห์แบบรวมทั้งสเปกของวัสดุอุปกรณ์และการติดตั้ง

หลังจากที่ผู้ประมาณราคาได้รับแบบและสเปกมาแล้ว ก็ต้องมีการพิจารณาให้ละเอียดชัดเจนว่า

- จำนวนหน้าของบบ มีครบตามที่ระบุใน Drawing List ของแบบหรือมไม่

- จำนวนหน้าของสเปกมีครบหรือไม่ โดยดูได้จากสารบัญ

- แบบและรายละเอีดของอุปกรณ์ เช่น จำนวนหรือตำแหน่งที่ติดตั้งในแบบแปลนครบตามที่มีใน Single Line และ Riser Diagram หรือไม่

- ข้อกำหนดหรือรายละเอียดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดในโครงการ เช่น รูปแบบ ลักษณะหรือการติดตั้งมีครบตามที่มีในแบบหรือไม่ ที่สำคัญคืออุปกรณ์หลัก ๆ เช่น สเปกของหม้อแปลง

- ปัญหาของแบบไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ รวมทั้งไม่มีข้อกำหนดของอุปกรณ์ที่ต้องเพิ่มเติมซึ่งมีผลต่อการทำราคา ต้องทำเป็นข้อคำถามเพื่อสอบถามไปยังผู้ออกแบบ

- เอกสาร BOQ ของงานมีหรือไม่ ปกติผู้ออกแบบจะทำแบบฟอร์มสำหรับการประมูลงาน เพื่อให้บริษัทผู้รับเหมามีบรรทัดฐานในการถอดแบบไปในทิศทางเดียวกัน และสะดวก

ในการตรวจสอบราคาโดยการเปรียบเทียบแต่ละรายการ กรณีที่ผู้ออกแบบไม่ได้ทำแบบฟอร์มมาให้ ผู้รับเหมาต้องทำแบบฟอร์มของตนเองโดยการจัดวางฟอร์มตามหมวดหมู่ที่เหมาะสม