การสร้างโรงงาน กับสารดับเพลิงสะอาดทดแทนก๊าซฮาลอน
การสร้างโรงงาน กับสารซึ่งประกอบด้วยอะตอมของธาตุจากอนุกรมฮาลอนตั้งแต่หนึ่งอะตอมขึ้นไป ธาตุเหล่านี้ได้แก่ ฟลูออรีน คลอรีน โบรมีน
และไอโอดีน สารประกอบที่เคยนำมาใช้เป็นดับเพลิงกันมากในอดีตมีอยู่ 5 ชนิดด้วยกัน สารประกอบฮาลอนเป็นก๊าซดับเพลิงที่ “สะอาด”
เก็บไว้ในถังอัดความดันซึ่งจะทำให้อยู่ในสภาพของเหลว หลังจากไฟดับแล้วจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ หรือทำความเสียหายให้กับบริเวณนั้น
เหมือนการใช้น้ำหรือโฟม แต่เนื่องจากฮาลอนเป็นสารเคมีที่อยู่ในกลุ่มประเภทที่มีคุณสมบัติในการทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศที่มีห่อหุ้มโลกอยู่สูงมาก
อันจะมีผลให้พื้นผิวโลกได้รับรังสีอุลตราไวโอเล็ตจากแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมได้
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยเพื่อผลิตสามารถนำมาใช้ทดแทนฮาลอนได้ ตลอดจนบรรยายถึงวิธีการคำนวณออกแบบระบบดับเพลิงที่ใช้สารดับเพลิงทดแทนนี้
น้ำเป็นสารดับเพลิงที่หาได้ง่ายที่สุดและมีราคาถูกที่สุด ในการดับเพลิงจะทำให้พื้นที่เหล่านั้นเปียกและเกิดความเสียหายขึ้นกับวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้อง
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยเพื่อผลิตสามารถนำมาใช้ทดแทนฮาลอนได้ ตลอดจนบรรยายถึงวิธีการคำนวณออกแบบระบบดับเพลิงที่ใช้สารดับเพลิงทดแทนนี้
น้ำเป็นสารดับเพลิงที่หาได้ง่ายที่สุดและมีราคาถูกที่สุด ในการดับเพลิงจะทำให้พื้นที่เหล่านั้นเปียกและเกิดความเสียหายขึ้นกับวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้อง
ดังนั้นน้ำจึงไม่ใช้สารดับเพลิงสะอาดและไม่เหมาะกับการใช้ดับเพลิงในอีกหลาย ๆ ส่วนของอาคาร เช่น ศูนย์คอมพิวเตอร์ ศูนย์โทรคมนาคม ฯลฯ เป็นต้น
ในจำนวนสารดับเพลิงสะอาด สารซึ่งเป็นที่ยอมรับกันมากในด้านประสิทธิภาพการดับเพลิง ความปลอดภัย และความสะอาด ซึ่งมีชื่อเรียกทางการค้าสั้น ๆ ว่า FM-200
ระบบดับเพลิงที่ใช้สารชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้ดับเพลิงในห้องที่ต้องการสารดับเพลิงสะอาดและที่ซึ่งมีคนทำงานหรืออาศัยอยู่ด้วย
ในจำนวนสารดับเพลิงสะอาด สารซึ่งเป็นที่ยอมรับกันมากในด้านประสิทธิภาพการดับเพลิง ความปลอดภัย และความสะอาด ซึ่งมีชื่อเรียกทางการค้าสั้น ๆ ว่า FM-200
การออกแบบระบบดับเพลิงใช้สาร FM-200
ระบบดับเพลิงที่ใช้สารชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้ดับเพลิงในห้องที่ต้องการสารดับเพลิงสะอาดและที่ซึ่งมีคนทำงานหรืออาศัยอยู่ด้วย
สารดับเพลิงสามารถดับเพลิงได้โดยการเข้าไปขัดจังหวะกระบวนการเผาไหม้ทางเคมีโดยที่ไม่มีผลต่อปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่ภายในห้อง
ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องสามารถมองเห็น หายใจได้ และออกมาจากห้องได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นการที่จะลดการเกิดสารพิษนี้ให้น้อยที่สุดก็
โดยการฉีดสาร FM-200 อย่างรวดเร็ว เพื่อดับเพลิงเสียก่อนที่จะมีการแตกตัวเนื่องจากความร้อนสูง
การออกแบบระบบท่อที่ดี จะต้องให้อัตราการไหลของสารในระบบท่อให้ได้ดุลย์กัน การที่จะเป็นเช่นนี้มีข้อคำนึงในการวางแบบแปลนระบบท่อดังนี้
1. จำนวนหัวฉีดก๊าซในระบบจะต้องเป็นจำนวนคู่
2. หัวฉีดแต่ละหัวควรมีอัตราการฉีดเท่ากัน
3. ท่อจ่ายจากถังเก็บ FM-200 ไปยังแต่ละหัวจ่ายควรมีขนาดและความยาวใกล้เคียงกัน
4. การต่อท่อแยกควรใช้ 3 ตา ชนิด Bullhead tee ซึ่งต่อเข้ากับท่อประธานตรงกลางและมีท่อแยกทั้ง 2 ตั้งฉากกับท่อประธาน ไม่ควรใช้ 3 ตา ชนิดที่มีท่อแยกท่อหนึ่งอยู่ในแนวเดียวกับท่อประธาน
การกำหนดขนาดท่อจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องจ่ายสาร FM-200 ให้ได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ และความเร็วต่ำสุดภายในท่อ
การกำหนดและออกแบบระบบท่อ FM-200
การออกแบบระบบท่อที่ดี จะต้องให้อัตราการไหลของสารในระบบท่อให้ได้ดุลย์กัน การที่จะเป็นเช่นนี้มีข้อคำนึงในการวางแบบแปลนระบบท่อดังนี้
1. จำนวนหัวฉีดก๊าซในระบบจะต้องเป็นจำนวนคู่
2. หัวฉีดแต่ละหัวควรมีอัตราการฉีดเท่ากัน
3. ท่อจ่ายจากถังเก็บ FM-200 ไปยังแต่ละหัวจ่ายควรมีขนาดและความยาวใกล้เคียงกัน
4. การต่อท่อแยกควรใช้ 3 ตา ชนิด Bullhead tee ซึ่งต่อเข้ากับท่อประธานตรงกลางและมีท่อแยกทั้ง 2 ตั้งฉากกับท่อประธาน ไม่ควรใช้ 3 ตา ชนิดที่มีท่อแยกท่อหนึ่งอยู่ในแนวเดียวกับท่อประธาน
การกำหนดขนาดท่อจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่ต้องจ่ายสาร FM-200 ให้ได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ และความเร็วต่ำสุดภายในท่อ
เพื่อให้เกิดการไหลแบบปั่นป่วน ระยะเวลาฉีดสารกำหนดให้อยู่รหว่าง 6 – 10 วินาที ในระยะแรกของการจ่ายสารส่วนใหญ่จะอยู่
ในสถานะก๊าซเพราะการขยายตัวไปตามระบบท่อจะทำให้ความดันลดลงมาก ต่อมาจึงเป็นการไหลแบบสองสถานะคือมีทั้งสารและก๊าซปนกัน
ส่วนใหญ่จะเป็นสารเหลว สารเหลวและก๊าซจะผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งเป็นสถานะที่จะใช้ในการคำนวณกำหนดขนาดท่อ
จำนวนหัวฉีดก๊าซจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และระยะเวลาที่ต้องฉีดให้ได้ความเข้มข้นภายใน 10 วินาที หัวฉีดมีทั้งชนิดจ่ายด้านข้างกระจายเป็นมุม 180 องศา
จำนวนหัวฉีดก๊าซจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และระยะเวลาที่ต้องฉีดให้ได้ความเข้มข้นภายใน 10 วินาที หัวฉีดมีทั้งชนิดจ่ายด้านข้างกระจายเป็นมุม 180 องศา
และแบบจ่ายจากเพดานกระจาย 360 องศา รัศมีทำการของการกระจายขึ้นอยู่กับอัตราการไหล ความดันที่หัวฉีด และความสูงของเพดาน
ตลอดจนแบบของหัวฉีดแต่ละผู้ผลิตความดันที่เหมาะสม ที่หัวฉีดในขณะทำงานไม่ควรจะต่ำกว่า 350 kPa สำหรับรัศมีการกระจายนั้นควรที่จะตรวจสอบจากคู่มือผู้ผลิต
การคำนวณท่อรับความดัน
สารดับเพลิงโดยปรกติจะถูกเก็บอยู่ภายในถังในสถานะของเหลว เพื่อให้ถังมีความดันเพียงพอสำหรับจ่ายสารดับเพลิงเหลวไปตามท่อ
การคำนวณท่อรับความดัน
สารดับเพลิงโดยปรกติจะถูกเก็บอยู่ภายในถังในสถานะของเหลว เพื่อให้ถังมีความดันเพียงพอสำหรับจ่ายสารดับเพลิงเหลวไปตามท่อ
ซึ่งมีทั้งความดันลดเนื่องจากความเสียดทาน ความสูงของระบบท่อ และการขยายปริมาตรของสารดับเพลิง จำเป็นที่จะต้องอัดความดันภายในถัง
ให้สูงกว่าความดันไออิ่มตัวในขณะเป็นของเหลวอยู่ โดยปรกติจะใช้ก๊าซไนโตรเจนอัดเพิ่มความดันภายในถังสารดับเพลิง สำหรับสาร FM-200
แล้วมาตรฐานการอัดความดันในถัง ในการคำนวณความแข็งแรงของท่อส่งและอุปกรณ์ในระบบ ได้กำหนดให้ใช้ความดันในถังขณะบรรจุเต็มที่ที่อุณหภูมิ 55 องศา
ซึ่งทำให้ความดันออกแบบระบบท่อสูงกว่าความดันที่อุณหภูมิบรรจุ
สินค้าแนะนำ : กล้องวงจรปิด
ระบบดับเพลิงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จัดเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่กัดกร่อน ไม่มีพิษ และไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า ซึ่งจัดเป็นน้ำยาดับเพลิงชนิด “สะอาด” เช่นเดียวกัน
จะต้องใช้ความเข้มข้นของก๊าซสูงมากจึงจะสามารถดับเพลิงลงได้ ฉะนั้นอันตรายที่อาจจะเกิดจากการใช้ก๊าซนี้ในการดับเพลิงคือการทำให้ผู้ที่อยู่ภายในห้อง
ปิดนั้นรู้สึกหายใจไม่ออกและตาพร่ามัวจนทำให้หมดสติได้ ในการใช้ก๊าซดับเพลิงในพื้นที่ปิด จึงจำเป็นที่จะต้องมีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
ประมาณหนึ่งนาทีก่อนที่จะให้ระบบทำการฉีดก๊าซออกมา เพื่อให้ผู้ที่ทำงานอยู่ภายในห้องนั้นมีเวลาที่จะหลบออกมาได้
ความเย็นที่ได้จาการฉีดก๊าซเข้าไปภายในห้องมีผลช่วยในการดับเพลิงไม่มากนัก ส่วนใหญ่สามารถดับไฟได้โดยการลดความเข้มข้นของออกซิเจน
ความเย็นที่ได้จาการฉีดก๊าซเข้าไปภายในห้องมีผลช่วยในการดับเพลิงไม่มากนัก ส่วนใหญ่สามารถดับไฟได้โดยการลดความเข้มข้นของออกซิเจน
ในอากาศลงจนถึงจุดที่ไม่ช่วยในการลุกไหม้ ในการใช้งานดับเพลิงก๊าซคาร์บอนฯจะถูกอัดเอาไว้ภายในถังให้อยู่ในรูปของของเหลว
ระบบดับเพลิงนี้สามารถใช้ดับเพลิงซึ่งเกิดจากวัสดุเชื้อเพลิงชนิดเดียวกันกับการใช้ก๊าซฮาลอน ส่วนใหญ่จะเป็นเพลิงที่เกิดจากของเหลวติดไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ตลอดจนห้องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ลักษณะการจัดระบบทั่วไปของระบบดับเพลิงก๊าซคาร์บอนฯจะเหมือนกับระบบดับเพลิง FM-200 โดยเปลี่ยนจากถังเก็บก๊าซ FM-200
ลักษณะการจัดระบบทั่วไปของระบบดับเพลิงก๊าซคาร์บอนฯจะเหมือนกับระบบดับเพลิง FM-200 โดยเปลี่ยนจากถังเก็บก๊าซ FM-200
มาเป็นถังเก็บก๊าซคาร์บอนฯ เท่านั้น ซึ่งมีท่อเมนร่วมกัน ซึ่งแต่ละใบจะมีท่ออ่อนและวาล์วควบคุมด้วยไฟฟ้าติดอยู่
เมื่อเกิดเพลิงไหม้อุปกรณ์ตรวจควันจะทำการเปิดวาล์วที่ถังเก็บก๊าซคาร์บอนฯเพื่อจ่ายก๊าซออกมาตามท่อพร้อมกันนี้สวิตช์ความดันก็จะส่งสัญญาณ
เตือนภัยและหยุดการทำงานของพัดลมระบายอากาศสำหรับห้องเพื่อไม่ให้ก๊าซคาร์บอนฯถูกดูดทิ้งไป
นอกจากนี้ก็จะทำการปิดของท่อระบายอากาศ ประตูไฟ และหน้าต่างโดยอัตโนมัติ กรณีที่ระบบเกิดขัดข้องขึ้นและก๊าซคาร์บอนฯไม่ถูกปล่อยออกมา
นอกจากนี้ก็จะทำการปิดของท่อระบายอากาศ ประตูไฟ และหน้าต่างโดยอัตโนมัติ กรณีที่ระบบเกิดขัดข้องขึ้นและก๊าซคาร์บอนฯไม่ถูกปล่อยออกมา
โดยอัตโนมัติผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นสามารถที่จะเปิดวาล์วจ่ายก๊าซได้โดยการดึง remote control pull box ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ผนังห้องได้
ปริมาณของก๊าซคาร์บอนฯที่ต้องใช้ในการดับเพลิงจะต้องมีความเข้มข้นสูงกว่าก๊าซ FM-200 ต้องใช้ความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 30%
การหาปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ปริมาณของก๊าซคาร์บอนฯที่ต้องใช้ในการดับเพลิงจะต้องมีความเข้มข้นสูงกว่าก๊าซ FM-200 ต้องใช้ความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 30%
สำหรับวัสดุเชื้อเพลิงธรรมดาทั่วไปซึ่งเกิดการเผาไหม้ที่ผิวหน้าก็สามารถที่จะหยุดการลุกไหม้ลงได้แล้ว แต่เชื้อเพลิงประเภทที่มีการคุแดงอยู่ภายใน
จะต้องใช้ความเข้มข้นสูงมากกว่านี้ ความเข้นข้นของก๊าซคาร์บอนฯที่ต้องใช้ในการดับเพลิงที่เกิดจากของเหลวและก๊าซชนิดต่าง ๆ
ในการคำนวณ หาปริมาณของก๊าซคาร์บอนฯที่ต้องใช้ทั้งหมดนั้นได้ให้ข้อมูลไว้ซึ่งทำให้สามารถคำนวณได้รวดเร็ว
การฉีดก๊าซคาร์บอนฯเข้าไปในห้องขึ้นอยู่กับปริมาณของก๊าซคาร์บอนฯ และระยะเวลาที่ต้องการให้ได้ความเข้มข้นตามที่ออกแบบ
อัตราการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
การฉีดก๊าซคาร์บอนฯเข้าไปในห้องขึ้นอยู่กับปริมาณของก๊าซคาร์บอนฯ และระยะเวลาที่ต้องการให้ได้ความเข้มข้นตามที่ออกแบบ
สำหรับเชื้อเพลิงทั่วไปซึ่งมีการลุกไหม้อยู่ที่ผิวและต้องการความเข้มข้นไม่เกิน 34% จะต้องกำหนดท่อให้สามารถฉีดก๊าซคาร์บอนฯ
ให้ได้ความเข้มข้นตามต้องการภายในระยะเวลาหนึ่งนาทีจึงจะสามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื้อเพลิงประเภทที่มีการคุแดงอยู่ภายใน
ได้ควรฉีดก๊าซคาร์บอนฯระยะเวลาไม่เกิน 7 นาที และยังควรที่จะรักษาความเข้มข้นดังกล่าวเอาไว้ได้อีกอย่างน้อย 20 นาที
ระยะเวลาที่ต้องการรักษาความเข้มข้นเอาไว้ขึ้นอยู่กับลักษณะของวัสดุเชื้อเพลิง และอุปกรณ์ต้นเพลิงซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น