การป้องกันมัลแวร์ที่เครื่องไคลเอนต์
เครื่องไคลเอนต์หรือเครื่องที่ผู้ใช้ใช้ในงานนั้น ควรมีการป้องกันเบื้องต้นดังนี้- เปิดใช้งานไฟร์วอลล์
- การอัพเดตวินโดวส์เป็นประจำ
- การติดตั้งและใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่มีการอัพเดตเป็นประจำ
- การติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์และการอัพเดตเป็นประจำ
การป้องกันทางกายภาพ
ความปลอดภัยทางด้านกายภาพจัดอยู่ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยทั่วไปมากกว่าที่จะเกี่ยวกับการป้องกันไวรัส
การป้องกันไวรัสนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าไม่มีแผนการสำหรับป้องกันทางกายภาพให้กับไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์
และอุปกรณ์เครือข่ายภายในโครงสร้างขององค์กร มีหลายส่วนที่สำคัญและจำเป็นต้องมีแผนการป้องกัน ประกอบด้วย
- การรักษาความปลอดภัยสถานที่
- การรักษาความปลอดภัยสถานที่
- การรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล
- การควบคุมการเข้าถึงเครือข่าย
- การรักษาความปลอดภัยเครื่องเซิร์ฟเวอร์
- การรักษาความปลอดภัยเครื่องไคลเอนต์
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่
สินค้าแนะนำ | รั้วไฟฟ้ากันขโมย กล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมย
นโยบาย ระเบียบปฏิบัติ และข้อควรระวัง
ในการป้องกันไวรัสสำหรับองค์กรส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ นโยบายและระเบียบปฏิบัติ แนวทางสำหรับนโยบายและระเบียบปฏิบัติ ควรเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการป้องกันไวรัสขององค์กร
- การสแกนไวรัสเป็นประจำ ส่วนใหญ่ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสามารถสแกนไวรัสแบบอัตโนมัติหรือเรียลไทม์ ถ้าซอฟต์แวร์ไม่สามารถทำได้ก็ควรกำหนดนโยบาย
ให้ผู้ใช้สแกนไวรัสทั้งระบบในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- การพเดตไวรัสซิกเนเจอร์เป็นประจำ ส่วนใหญ่ในสมัยใหม่ซอฟต์แวร์สามารถรองรับการดาวน์โหลดและอัพเดตไวรัสซิกเนเจอร์แบบอัตโนมัติ
- การพเดตไวรัสซิกเนเจอร์เป็นประจำ ส่วนใหญ่ในสมัยใหม่ซอฟต์แวร์สามารถรองรับการดาวน์โหลดและอัพเดตไวรัสซิกเนเจอร์แบบอัตโนมัติ
ควรกำหนดนโยบายให้มีการอัพเดตเป็นประจำ ถ้าองค์กรต้องการที่จะทดสอบการอัพเดตก่อน ทีมสนับสนุนต้องดาวน์โหลดทดสอบและอัพเดตซิกเนเจอร์ให้เร็วที่สุด
- แอพพลิเคชันและเซอร์วิสที่อนุญาตและไม่อนุญาต องค์กรควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนว่าผู้ใช้สามารถสื่อสารด้วยการใช้แอพพลิเคชันใดได้บ้าง
- แอพพลิเคชันและเซอร์วิสที่อนุญาตและไม่อนุญาต องค์กรควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนว่าผู้ใช้สามารถสื่อสารด้วยการใช้แอพพลิเคชันใดได้บ้าง
ส่วนแอพพลิเคชันที่มีความเสี่ยงในการสร้างอันตรายได้ก็ควรมีการบล็อก
- การควบคุมการเปลี่ยนแปลงค่าคอนฟิก
องค์กรควรที่จะมีนโยบายและระเบียบปฏิบัติ สำหรับการเข้าถึงอุปกรณ์เครือข่ายภายในองค์กรดังนี้
- การควบคุมการเปลี่ยนแปลงค่าคอนฟิก
- การมอนิเตอร์เครือข่าย
- แผนปฏิบัติเมื่อถูกโจมตี
- นโยบายการเข้าถึงเครือข่ายจากที่บ้าน
- นโยบายการเข้าถึงเครือข่ายของผู้มาเยี่ยม
- นโยบายการใช้งานไวร์เลสแลน
นโยบายและระเบียบปฏิบัติยังมีอีกมากมายที่สามารถนำมาใช้กับองค์กร เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์เครือข่ายก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
การฝึกอบรมและอัพเดตความรู้ใหม่ ๆ
สำหรับผู้ที่ดูแลระบบควรปฏิบัติเป็นประจำ เนื่องจากไวรัสและมัลแวร์และการป้องกันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำไวรัสใหม่ ๆ
อาจสามารถนะผ่านระบบป้องกันที่เคยได้ผลและมีประสิทธิภาพโดยใช้เวลาไม่นานนัก ผู้ที่ดูแลไม่ได้ฝึกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีใหม่ ๆ นี้
ก็รอแค่เวลาในการถูกโจมตีที่จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ การฝึกอบรมให้ผู้ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่องค์กรควรจัดให้มี
การทำให้ผู้ใช้เข้าใจถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นส่วนที่ช่วยให้การป้องกันได้ผลมากชึ้น
เพราะผู้ใช้ทุกคนที่ใช้ทรัพยากรทางด้านไอทีขององค์กรมีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับระบบ
เพราะผู้ใช้ทุกคนที่ใช้ทรัพยากรทางด้านไอทีขององค์กรมีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับระบบ
จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการฝึกอบรมผู้ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงจะช่วยบรรเทาหรือลดความเสี่ยง เช่น
- การเปิดไฟล์ทีแนบมากับอีเมล
- การเปิดไฟล์ทีแนบมากับอีเมล
- การใช้รหัสผ่านง่าย ๆ
- การดาวน์โหลดโปรแกรมและแอ็คทีฟเอ็กซ์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
- การรันแอพพลิเคชันจากซีดีที่ไม่ได้รับอนุญาต
- การอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลหรือเครือข่ายขององค์กร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น