กล้องรักษาความปลอดภัย ให้กับสังคมยุคใหม่
หลักคุณธรรมและจริยธรรมทางการเป็นพลเมืองดีในสังคม มีดังนี้
1. การใช้ความรู้และปรัชญาในการดำเนินชีวิต หลักการสำคัญในการพัฒนาครอบคลุมการสืบค้นและรวบรวมข่าวสาร ความสามารถในการวิเคราะห์แยกแยะ
การใช้ความคิดอย่างมีวิจารญาณ ประเมินสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ตลอดจนการได้บทสรุปที่เที่ยงตรง นับเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นพลเมืองดีในสังคมไทย
2. ความมีเหตุผล การนำข้อมูลมาสนับสนุนและวิเคราะห์เพื่อหาข้อสรุป การพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสืบค้นหาความจริงต่าง ๆ ความมีเหตุผลทำให้สังคมมีความสงบสุขเรียบร้อย
2. ความมีเหตุผล การนำข้อมูลมาสนับสนุนและวิเคราะห์เพื่อหาข้อสรุป การพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อสืบค้นหาความจริงต่าง ๆ ความมีเหตุผลทำให้สังคมมีความสงบสุขเรียบร้อย
ความมีเหตุผลเป็นองค์ประกอบของการนำความรู้และปัญญาไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ คิดอย่างมีเหตุผล ก็สามารถพูดและทำสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติด้วย
3. การยึดมั่นในผลประโยชน์ส่วนรวม การที่มีจิตสาธารณะถือเป็นการปลุกจิตสำนึกให้รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตน และมาร่วมกันสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะและส่วนรวม
3. การยึดมั่นในผลประโยชน์ส่วนรวม การที่มีจิตสาธารณะถือเป็นการปลุกจิตสำนึกให้รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตน และมาร่วมกันสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะและส่วนรวม
รวมถึงการคำนึงว่าผลประโยชน์ส่วนตนนั้นได้สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือสร้างงปัญหาให้กับส่วนรวมหรือไม่ หากเราได้ประโยชน์ส่วนเดียว แต่ส่วนรวมกลับเสียประโยชน์เราก็ควรละเว้นการกระทำนั้นเสีย
4. การยึดหลักธรรมาธิปไตยในการดำรงชีวิต การยึดหลักธรรมในการบริหารจัดการองค์กรหรือบ้านเมืองให้มีความก้าวหน้า มั่นคง เป็นที่ยอมรับของสังคม
4. การยึดหลักธรรมาธิปไตยในการดำรงชีวิต การยึดหลักธรรมในการบริหารจัดการองค์กรหรือบ้านเมืองให้มีความก้าวหน้า มั่นคง เป็นที่ยอมรับของสังคม
และยังสามารถนำมาใช้กับความเป็นพลเมืองดีในสังคมไทย เพื่อเสริมสร้างให้เป็นกำลังใจในการสร้างความเจริญให้บ้านเมืองและประเทศชาติ
มีแนวประพฤติปฏิบัติในการมีคุณธรรมและจริยธรรม คือ ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต ความมีวินัย และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความกล้าหาญและเชื่อมั่นในตนเอง
5. การยึดหลักการอยู่ร่วมกันในสังคม ในสังคมมีสมาชิกที่แตกต่างหลากหลายกันทางวัฒนธรรม การอยู่รวมกันได้อย่างมีความสงบสุข พลเมืองดีต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมดังนี้คือ
5. การยึดหลักการอยู่ร่วมกันในสังคม ในสังคมมีสมาชิกที่แตกต่างหลากหลายกันทางวัฒนธรรม การอยู่รวมกันได้อย่างมีความสงบสุข พลเมืองดีต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมดังนี้คือ
การรู้จักกาลเทศะและการนอบน้อมถ่อมตน การยอมรับและการให้อภัย การควบคุมอารมณ์หรือการข่มใจ ความกตัญญูกตเวที และการมีน้ำใจต่อผู้อื่น
6. คุณธรรมและจริยธรรมของพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย ในสังคมประชาธิปไตยเป็นลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากการปกครองอื่นโดยยึดหลักประชาธิปไตยในการดำรงชีวิต ประกอบด้วย คารวธรรม
6. คุณธรรมและจริยธรรมของพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย ในสังคมประชาธิปไตยเป็นลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากการปกครองอื่นโดยยึดหลักประชาธิปไตยในการดำรงชีวิต ประกอบด้วย คารวธรรม
ปัญญาธรรม และสามัคคีธรรม รวมถึงการเคารพในหลักการของสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และความรับผิดชอบสิทธิและหน้าที่เป็นสิ่งคู่กันมีความสำคัญต่อการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตย หลักการนี้ส่งผลให้ลักษณะของการเป็นพลเมืองดีในสังคม เป็นดังนี้คือ
- การเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน
- การเคารพและการยอมรับความแตกต่างของมนุษยชาติ
- การเคารพและการยอมรับความแตกต่างของมนุษยชาติ ความมีเหตุผล การเคารพ และยอมรับการแสดงความคิดเห็นของผู้อื่น
- การตระหนักในความสำคัญและการแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
- การเคารพและการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความสงบสุขในสังคม
- การมีส่วรร่วมในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม
- การเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน
- การเคารพและการยอมรับความแตกต่างของมนุษยชาติ
- การเคารพและการยอมรับความแตกต่างของมนุษยชาติ ความมีเหตุผล การเคารพ และยอมรับการแสดงความคิดเห็นของผู้อื่น
- การตระหนักในความสำคัญและการแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
- การเคารพและการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความสงบสุขในสังคม
- การมีส่วรร่วมในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม
ช่างกล้องวงจรปิดควรทำตัวอย่างไร
การทำตนเป็นคนดีของสังคม นอกจากจะสร้างประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติแล้วยังเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต หาความรู้อย่างต่อเนื่องสามารถปรับตัว
ให้อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาทั้งตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และผู้ที่เป็นพลเมืองดีสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุข
ประสบความสำเร็จและเป็นที่รักของคนในสังคม เป็นผู้ที่รู้จักสถานภาพของต่างตนเองและทำตาทบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมได้อย่างถูกต้อง
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเองของพลเมืองดี ดังนี้
1. ทางกาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพอนามัยของตนเองให้เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ย่อมสามารถพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเองของพลเมืองดี ดังนี้
1. ทางกาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพอนามัยของตนเองให้เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ย่อมสามารถพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ในปัจจุบันยังประสบปัญหาต่าง ๆ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโลกาภิวัตน์ ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ
2. ทางจิตใจหรือความมั่นคงในอารมณ์ เกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิดคุณธรรมในจิตใจ ส่งผลให้เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
2. ทางจิตใจหรือความมั่นคงในอารมณ์ เกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิดคุณธรรมในจิตใจ ส่งผลให้เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ที่เกิดกับตนเองและสังคม จิตจึงไม่วุ่นวายกับความไร้สาระของชีวิต ปลดจากการครอบงำของกิเลส และเข้าสู่การดับทุกข์และความสงบสุขในที่สุด
3. ทางสติปัญญา ความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาและการแสวงหาความรู้เป็นการพัฒนาสติปัญญาและเสริมสร้างศักยภาพในการคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์
3. ทางสติปัญญา ความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาและการแสวงหาความรู้เป็นการพัฒนาสติปัญญาและเสริมสร้างศักยภาพในการคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์
เรียนรู้ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ รวมทั้งการพัฒนาบุคลิกภาพตนเพื่อการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ทางเศรษฐกิจและสังคม ในการประกอบอาชีพนั้นต้องทำตามความถนัดและความสามารถของตน อันเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ตนเองและครอบครัว
4. ทางเศรษฐกิจและสังคม ในการประกอบอาชีพนั้นต้องทำตามความถนัดและความสามารถของตน อันเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ตนเองและครอบครัว
จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ทักษะ และความสามารถในการประกอบอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนให้ก้าวหน้าไม่เป็นภาระของสังคม และย่อมส่งผลให้ประเทศมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้วย
บทบาทหน้าที่ของพลเมืองดีที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
สังคมแบ่งออกได้หลายระดับ สังคมขนาดเล็กสุดจนถึงสังคมที่มีขนาดใหญ่ การเป็นพลเมืองดีของสังคมในระดับต่าง ๆ จึงขึ้นอยู่กับสถานภาพของแต่ละบุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน
บทบาทหน้าที่ของพลเมืองดีที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
สังคมแบ่งออกได้หลายระดับ สังคมขนาดเล็กสุดจนถึงสังคมที่มีขนาดใหญ่ การเป็นพลเมืองดีของสังคมในระดับต่าง ๆ จึงขึ้นอยู่กับสถานภาพของแต่ละบุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน
ซึ่งมีบทบาทหน้าที่กันตามสถานภาพดังนี้
1. การปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ และกฎหมายของสังคม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
2. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มคนทั้งนี้เพื่อร่วมมือกันพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้าขึ้น
3. การดูแลรักษาสาธารสมบัติไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลาย ทั้งการมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงสาธารสมบัติให้อยู่ในสภาพดี เพื่อให้สร้างประโยชน์ให้ชุมชนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
4. การรักษาสภาพแวดล้อม ระมัดระวัง สอดส่องดูแลป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ทีอาจเกิดขึ้นในชุมชน รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามตวามสามารถของตน
5. ปฏิบัติตนตามสถานภาพและหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีต่อสังคม เพื่อที่จะประพฤติปฏิบัติตามสิทธิ บทบาท และหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้ตนเองสามารถบรรลุเป้าหมายแห่งชีวิตได้อย่างรวดเร็ว สังคมมีความสงบสุข และมีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน
1. การปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ และกฎหมายของสังคม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
2. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มคนทั้งนี้เพื่อร่วมมือกันพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้าขึ้น
3. การดูแลรักษาสาธารสมบัติไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลาย ทั้งการมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงสาธารสมบัติให้อยู่ในสภาพดี เพื่อให้สร้างประโยชน์ให้ชุมชนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
4. การรักษาสภาพแวดล้อม ระมัดระวัง สอดส่องดูแลป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ทีอาจเกิดขึ้นในชุมชน รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามตวามสามารถของตน
5. ปฏิบัติตนตามสถานภาพและหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีต่อสังคม เพื่อที่จะประพฤติปฏิบัติตามสิทธิ บทบาท และหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้ตนเองสามารถบรรลุเป้าหมายแห่งชีวิตได้อย่างรวดเร็ว สังคมมีความสงบสุข และมีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้กำหนดหน้าที่ของประชาชน ดังนี้
1. บุคคลมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. บุคคลมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย
3. บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รับราชการทหาร ช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติสาธารณะ รับการฝึกอบรมปกป้อง และสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ และภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. บุคคลผู้เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
เพื่อรักษาประโยชน์ของส่วนรวม อำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และต้องวางตนเป็นกลางทางการเมือง
การที่พลเมืองทำตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดผลดีต่อสังคมไทยทั้งทางด้านการเมือง การปกครอง และสังคม รวมทั้งประโยชน์และคุณค่าต่อโลก
การที่พลเมืองทำตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดผลดีต่อสังคมไทยทั้งทางด้านการเมือง การปกครอง และสังคม รวมทั้งประโยชน์และคุณค่าต่อโลก
ในฐานะของมนุษยชาติ พลเมืองดีที่รู้บทบาทและหน้าที่อันพึงกระทำต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ย่อมเคารพให้เกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น
เคารพในความแตกต่างของวัฒนธรรม ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน
เพื่อสนองความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดขึ้นที่หนึ่งที่ใดในโลก และสามารถส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วต่อส่วนอื่น ๆ ของโลก โลกาภิวัตน์เกิดจากการที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
เพื่อสนองความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดขึ้นที่หนึ่งที่ใดในโลก และสามารถส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วต่อส่วนอื่น ๆ ของโลก โลกาภิวัตน์เกิดจากการที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และด้านคมนาคม ส่งผลให้มนุษย์ทั่วโลกสามารถสื่อสาร ส่งข่าวสาร สารสนเทศ และสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ทั่วโลกอย่างสะดวกและรวดเร็ว
กล้องรักษาความปลอดภัย |
ความสำคัญของโลกาภิวัตน์
ในยุคโลกาภิวัตน์ทำให้ข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ สามารถแพร่กระจายได้ทุกพื้นที่ในโลก ส่งผลให้เกิดการปรับตัวทางสังคมการเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดการแข่งขันสูง
นำไปสู่การพัฒนาทุก ๆ ด้าน ความสามารถที่จะปรับตัวให้ทันกับโลกาภิวัตน์เป็นผลให้เกิดการทำลายศักยภาพของคน ชุมชน ประเทศ และทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ต่างก็ต้องพัฒนาตนเองให้ทันสมัยก้าวหน้ากับประชาคมโลก กระแสโลกาภิวัตน์จะส่งผลต่อประชาชมโลกมีความสำคัญในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. การคมนาคมและการสื่อสาร ทำได้อย่างรวดเร็ว การเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นที่หนึ่งที่ใดในโลกจะสามารถรู้กันทั่วโลก
2. การแข่งขันด้านภูมิปัญญา ในอดีตโลกแข่งขันกันด้านการเงิน กำลังคน แต่ในยุคโลกาภิวัตน์เป็นการแข่งขันกันทางด้านภูมิปัญญาและคุณภาพของคนมากกว่า เพราะถ้าคนมีคุณภาพ มีภูมิปัญญาสูง จะช่วยส่งผลให้สามารถเป็นผู้ชนะได้ในทุก ๆ ด้านการแข่งขัน
3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้สังคมและชุมชนในโลกต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่สังคมแห่งเทคโนโลยี วิถีชิวิตจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและรวดเร็ว ส่งผลให้คนในสังคมมีการเปลี่ยนแปลงได้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
4. การแข่งขันในยุคโลกาภิวัตน์ การแข่งขันเกิดขึ้นสูงมากในทุกระดับสังคม ไม่ว่าเป็นด้านธุรกิจ ด้านการศึกษา ฯลฯ ทำให้เกิดการกีดกันในประชาคมโลก และในขณะเดียวกันก็มีการรวมกลุ่ม เพื่อแสวงหาและรักษาผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับสังคมและระดับชาติ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการแข่งขัน
5. การล่มสลาย ผู้ที่มีความสามารถเข้มแข็งและแข็งแกร่งก็จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน และสามารถอยู่รอดได้ ส่วนผู้ที่อ่อนแอกว่าก็จะล่มสลายในยุคของโลกาภิวัตน์
กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคใหม่และการมีส่วนร่วมของประชาชน
1. ทุนมนุษย์ แรงงานต่าง ๆ ที่อาจเกิดการเคลื่อนย้ายโดยเสรีของแต่ละกลุ่มพันธมิตร หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนย้ายที่ผิดกฏหมาย
2. ทุนอำนาจ การให้อำนาจทั้งการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจหรือกลุ่มประเทศต่าง ๆ และยังรวมถึงกองกำลังติดอาวุธ
3. ทุนการเงิน การลงทุนข้ามชาติในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การร่วมลงทุนในประเทศอื่น ๆ การซื้อขายหุ้น รวมถึงการกู้ยืมเงินหรือเงินช่วยเหลือต่าง ๆ ด้วย
4. ทุนทรัพยากร ทรัพยากรธรรมชาติ แร่ธาตุต่าง ๆ และรวมถึงผลผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ ด้วย
1. การคมนาคมและการสื่อสาร ทำได้อย่างรวดเร็ว การเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นที่หนึ่งที่ใดในโลกจะสามารถรู้กันทั่วโลก
2. การแข่งขันด้านภูมิปัญญา ในอดีตโลกแข่งขันกันด้านการเงิน กำลังคน แต่ในยุคโลกาภิวัตน์เป็นการแข่งขันกันทางด้านภูมิปัญญาและคุณภาพของคนมากกว่า เพราะถ้าคนมีคุณภาพ มีภูมิปัญญาสูง จะช่วยส่งผลให้สามารถเป็นผู้ชนะได้ในทุก ๆ ด้านการแข่งขัน
3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้สังคมและชุมชนในโลกต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่สังคมแห่งเทคโนโลยี วิถีชิวิตจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและรวดเร็ว ส่งผลให้คนในสังคมมีการเปลี่ยนแปลงได้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
4. การแข่งขันในยุคโลกาภิวัตน์ การแข่งขันเกิดขึ้นสูงมากในทุกระดับสังคม ไม่ว่าเป็นด้านธุรกิจ ด้านการศึกษา ฯลฯ ทำให้เกิดการกีดกันในประชาคมโลก และในขณะเดียวกันก็มีการรวมกลุ่ม เพื่อแสวงหาและรักษาผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับสังคมและระดับชาติ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการแข่งขัน
5. การล่มสลาย ผู้ที่มีความสามารถเข้มแข็งและแข็งแกร่งก็จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน และสามารถอยู่รอดได้ ส่วนผู้ที่อ่อนแอกว่าก็จะล่มสลายในยุคของโลกาภิวัตน์
กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคใหม่และการมีส่วนร่วมของประชาชน
1. ทุนมนุษย์ แรงงานต่าง ๆ ที่อาจเกิดการเคลื่อนย้ายโดยเสรีของแต่ละกลุ่มพันธมิตร หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนย้ายที่ผิดกฏหมาย
2. ทุนอำนาจ การให้อำนาจทั้งการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจหรือกลุ่มประเทศต่าง ๆ และยังรวมถึงกองกำลังติดอาวุธ
3. ทุนการเงิน การลงทุนข้ามชาติในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การร่วมลงทุนในประเทศอื่น ๆ การซื้อขายหุ้น รวมถึงการกู้ยืมเงินหรือเงินช่วยเหลือต่าง ๆ ด้วย
4. ทุนทรัพยากร ทรัพยากรธรรมชาติ แร่ธาตุต่าง ๆ และรวมถึงผลผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ ด้วย
การมีส่วนร่วมของประชาชน
ในยุคโลกาภิวัตน์เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและส่งผลใด้เศรษฐกิจเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม การเปิดกลุ่มเสรีทางการค้ากระจายไปทั่วโลก
ทำให้เกิดวัฒนธรรมวัตถุนิยม และบริโภคนิยมเพิ่มขึ้น ในการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม นโยบายยุทธศาสตร์สามารถรองรับกระแสโลกาภิวัตน์ได้
สามารถที่จะสร้างศักายภาพของตนเองให้มีความเข้มแข็งและที่สำคัญมีการพัฒนาในทุก ๆ ด้านของประเทศ
โดยเฉพาะทางด้านประชาชนควรได้รับการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วย การวางแผนพัฒนาประเทศสร้างแนวทางการพัฒนาที่ให้ประชาชนทุกคนมีส่วมร่วม
โดยเฉพาะทางด้านประชาชนควรได้รับการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วย การวางแผนพัฒนาประเทศสร้างแนวทางการพัฒนาที่ให้ประชาชนทุกคนมีส่วมร่วม
ในการพัฒนา การกำหนดวิสัยทัศน์และกำหนดวิถีชิวิตของประชาชนให้เป็นไปตามความต้องการของชุมชน มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
เศรษฐกิจพอเพียงในยุคโลกาภิวัตน์
ระบบทุนนิยมนี้ทำให้เกิดวัฒนธรรม วัตถุนิยม และบริโภคนิยม ในประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาคนของประเทศซึ่งคนของประเทศส่วนใหญ่อยู่ในชนบทมีปัญหาความยากจน
เศรษฐกิจพอเพียงในยุคโลกาภิวัตน์
ระบบทุนนิยมนี้ทำให้เกิดวัฒนธรรม วัตถุนิยม และบริโภคนิยม ในประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาคนของประเทศซึ่งคนของประเทศส่วนใหญ่อยู่ในชนบทมีปัญหาความยากจน
การด้อยโอกาส ความแตกแยก และการทำลายสิ่งแวล้อม ประเทศไทยจะทำอย่างไรให้สามารถสร้างศักยภาพได้ให้ทุกชุมชนมีความเข้มแข็ง มีความสามัคคี
ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ สู้กับวิกฤตจากโลกยุคโลกาภิวัตน์ และต้องสร้างศักยภาพให้กับภาคเอกชน เพื่อให้ด้านธุรกิจอุตสาหกรรมสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในสังคมโลกที่มีการแข่งขันสูง
การยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียงในยุคโลกาภิวัตน์
คนไทยทุกคนในประเทศยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานให้แก่คนไทยทุกคน เป็นหลักและแนวทางในการพัฒนาตนเองและประเทศ เพื่อจะได้ก้าวสู่โลกยุคโลกาภิวัตน์ได้อย่างมั่นคงโดยยึดหลักดังนี้
1. การพึ่งพาตนเอง คนไทยทุกคนควรพยายามพึ่งพาตนเองให้มากไม่หลงไปกับกระแสวัตถุนิยมและเทคโนโลยีจากต่างชาติ พยายามหาแนวทางการพัฒนาตนเองโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ และภูมิปัญญาของไทย
2. ทางสายกลาง พัฒนาตนเองตามความเหมาะสมและความสามารถไม่หนักไปในทางใดทางหนึ่ง ค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับด้วยความระมัดระวังรอบคอบ
3. พอประมาณ พัฒนาตนเองให้เกิดความเหมาะสมกับตนเอง ต้องรู้จักตนเองให้ชัดเจนว่าเด่นเรื่องใด มีทรัพยากรใดบ้างมากน้อยเพียงใด ควรยึดหลักประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ
4. มีเหตุผล การพิจารณาตนเองในด้านใดก็ตามต้องพิจารณาถึงเหตุและผลและความเหมาะสมว่ามีเหตุอย่างไร และมีผลอย่างไร ทำแล้วจะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่
5. มีภูมิคุ้มกัน การพัฒนาตนเองนั้นมีภูมิคุ้มกันมากน้อยเพียงใด ถ้าเกิดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงใด ๆ สามารถที่จะรับมือกับสถานการณ์นั้นได้หรือไม่
6. เงื่อนไขความรู้ การพัฒนาตนเอง ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องนั้น ๆ อย่างชัดเจนหรือยัง ใช้สติปัญญาในการทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วหรือไม่
7. เงื่อนไขคุณธรรม การพัฒนาตนเองต้องยึดมั่นในคุณธรรม มีความอดทน พากเพียรไม่คดโกงเอาเปรียบผู้อื่น
ประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและยึดหลักการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป การพัฒนาประเทศและชุมชนต้องทำด้วยความระมัดระวัง
การยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียงในยุคโลกาภิวัตน์
คนไทยทุกคนในประเทศยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานให้แก่คนไทยทุกคน เป็นหลักและแนวทางในการพัฒนาตนเองและประเทศ เพื่อจะได้ก้าวสู่โลกยุคโลกาภิวัตน์ได้อย่างมั่นคงโดยยึดหลักดังนี้
1. การพึ่งพาตนเอง คนไทยทุกคนควรพยายามพึ่งพาตนเองให้มากไม่หลงไปกับกระแสวัตถุนิยมและเทคโนโลยีจากต่างชาติ พยายามหาแนวทางการพัฒนาตนเองโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ และภูมิปัญญาของไทย
2. ทางสายกลาง พัฒนาตนเองตามความเหมาะสมและความสามารถไม่หนักไปในทางใดทางหนึ่ง ค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับด้วยความระมัดระวังรอบคอบ
3. พอประมาณ พัฒนาตนเองให้เกิดความเหมาะสมกับตนเอง ต้องรู้จักตนเองให้ชัดเจนว่าเด่นเรื่องใด มีทรัพยากรใดบ้างมากน้อยเพียงใด ควรยึดหลักประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ
4. มีเหตุผล การพิจารณาตนเองในด้านใดก็ตามต้องพิจารณาถึงเหตุและผลและความเหมาะสมว่ามีเหตุอย่างไร และมีผลอย่างไร ทำแล้วจะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่
5. มีภูมิคุ้มกัน การพัฒนาตนเองนั้นมีภูมิคุ้มกันมากน้อยเพียงใด ถ้าเกิดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงใด ๆ สามารถที่จะรับมือกับสถานการณ์นั้นได้หรือไม่
6. เงื่อนไขความรู้ การพัฒนาตนเอง ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องนั้น ๆ อย่างชัดเจนหรือยัง ใช้สติปัญญาในการทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วหรือไม่
7. เงื่อนไขคุณธรรม การพัฒนาตนเองต้องยึดมั่นในคุณธรรม มีความอดทน พากเพียรไม่คดโกงเอาเปรียบผู้อื่น
ประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและยึดหลักการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป การพัฒนาประเทศและชุมชนต้องทำด้วยความระมัดระวัง
รอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสังคมและประเทศก็คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะถ้าคนในสังคม ในประเทศ ด้อยคุณภาพแล้วก็ไม่มีทางที่จะสามารถพัฒนาได้เลย
การพัฒนาคุณภาพชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์
รัฐธรรมนูญของไทยได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน” เพื่อให้รัฐดำเนินการบริหารตามนโยบายด้านสังคม ด้านสาธารณะ ด้านการศึกษา และด้านวัฒนธรรม
การพัฒนาคุณภาพชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์
รัฐธรรมนูญของไทยได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน” เพื่อให้รัฐดำเนินการบริหารตามนโยบายด้านสังคม ด้านสาธารณะ ด้านการศึกษา และด้านวัฒนธรรม
และครอบคลุมทั้งทางด้านการเสริมสร้างสุขภาพให้นำไปสู่สุขภาวะที่ยั่งยืนของประชาชน การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบ
ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม การจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน มีการส่งเสริม บำรุงรักษา
และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และยั่งยืน
การดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในยุคโลกาภิวัตน์
สภาพัฒน์ได้กำหนดความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการและประกาศให้เป็นปีรณรงค์คุณภาพชีวิตของประชาชนในชาติ
การดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในยุคโลกาภิวัตน์
สภาพัฒน์ได้กำหนดความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการและประกาศให้เป็นปีรณรงค์คุณภาพชีวิตของประชาชนในชาติ
ให้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลความจำเป็นพื้นฐานทุกครัวเรือนทั่วประเทศและวิเคราะห์คุณภาพชีวิตในภาพรวมจนถึงปัจจุบัน โดยมีข้อมูลสรุปว่าการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย จะต้องผ่านเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐานใน 6 หมวดดังนี้
1. สุขภาพดี
2. มีบ้านอาศัย
3. ฝักใฝ่การศึกษา
4. รายได้ก้าวหน้า
5. ปลูกฝังค่านิยม
6. ร่วมใจพัฒนา
สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย กำหนดดัชนีความก้าวหน้าของคนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
1. สุขภาพดี
2. มีบ้านอาศัย
3. ฝักใฝ่การศึกษา
4. รายได้ก้าวหน้า
5. ปลูกฝังค่านิยม
6. ร่วมใจพัฒนา
สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย กำหนดดัชนีความก้าวหน้าของคนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
พิจารณาจากมุมมองที่มีคนเป็นศูนย์กลาง เริ่มตั้งแต่สุขภาพเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญของมนุษย์ ต่อมาเป็นเรื่องของการศึกษา เป็นเวลาที่สำคัญที่สุดของเยาวชน
และการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ให้ได้เพียงพอ สร้างมาตรฐานในการดำเนินชีวิต มีบ้านที่อยู่อาศัย มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีครอบครัวในชุมชนที่ดี รวมทั้งการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น และมีส่วนร่วมในสังคม
ดัชนีความก้าวหน้าของคนมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 8 ด้าน ได้แก่
1. สุขภาพ
2. การศึกษา
3. ชีวิตการงาน
4. รายได้
5. ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม
6. ชีวิตครอบครัวและชุมชน
7. การคมนาคมและการสื่อสาร
8. การมีส่วนร่วม
ดัชนีความก้าวหน้าของคนมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 8 ด้าน ได้แก่
1. สุขภาพ
2. การศึกษา
3. ชีวิตการงาน
4. รายได้
5. ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม
6. ชีวิตครอบครัวและชุมชน
7. การคมนาคมและการสื่อสาร
8. การมีส่วนร่วม
โลกาภิวัตน์ การเกิดเทคโนโลยี มีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ด้านสารสนเทศ และเทคโนโลยีด้านคมนาคม
จึงส่งผลให้มนุษย์ทั่วโลกสามารถสื่อสาร ส่งข่าวสาร สารสนเทศ และสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ทั่วโลกอย่างสะดวกรวดเร็ว กระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์
ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของทุนในทางเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ทุนมนุษย์ ทุนอำนาจ ทุนการเงิน และทุนทรัพยากร ส่วนการยึดมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียงในยุคโลกาภิวัตน์
ยึดหลักการพึ่งพาตนเอง ทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน เงื่อนไขความรู้ และเงื่อนไขคุณธรรม
การส่งเสริมให้มีมาตรฐานในการดำรงชีวิตที่เหมาะสมมีโอกาสมากขึ้น สามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ มีสุขภาพดี และมีความมั่นคงในชีวิต รวมทั้งมีเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
การส่งเสริมให้มีมาตรฐานในการดำรงชีวิตที่เหมาะสมมีโอกาสมากขึ้น สามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ มีสุขภาพดี และมีความมั่นคงในชีวิต รวมทั้งมีเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
จำเป็นต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้คนสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ และให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มสมรรถนะของตนเอง เช่น ความรู้ การเข้าถึงทรัพยากร และการมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม
ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรไทย
ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยภาครัฐมีบทบาทหน้าที่ดูและและรับผิดชอบการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตามลักษณะความชำนาญเฉพาะภาระกิจ เช่น ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้าน
สังคมสงเคราะห์ และต่อมาได้มีหน่วยงานเฉพาะด้าน เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นต้น ได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชิวิตของคนไทยอย่างต่อเนื่องสืบมาถึงปัจจุบัน
ความสัมพันธ์กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการพัฒนาคน มีดังต่อไปนี้
1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางร่างกาย สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย จำเป็นต้องบริโภคอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและเพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการพักผ่อนที่พอเพียง
2. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางด้านอารมณ์ การเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี การรู้จักควบคุมอารมณ์ สามารถจัดการความเครียดของจิตใจได้
3. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางสติปัญญา การเพิ่มทักษะการเรียนรู้ และประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตให้เท่าทันโลกปัจจุบัน และรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
4. การพัฒนาคุณภาพชีวิตททางด้านสังคม การได้รับการยอมรับและการยกย่องจากสังคม ได้มีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ให้สังคมและส่วนรวม รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การพัฒนาคุณภาพชิวิตตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
การวางแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ได้แก่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีบทบาทหน้าที่ในการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ขับเคลื่อน
ความสัมพันธ์กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการพัฒนาคน มีดังต่อไปนี้
1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางร่างกาย สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย จำเป็นต้องบริโภคอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและเพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการพักผ่อนที่พอเพียง
2. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางด้านอารมณ์ การเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี การรู้จักควบคุมอารมณ์ สามารถจัดการความเครียดของจิตใจได้
3. การพัฒนาคุณภาพชีวิตทางสติปัญญา การเพิ่มทักษะการเรียนรู้ และประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตให้เท่าทันโลกปัจจุบัน และรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
4. การพัฒนาคุณภาพชีวิตททางด้านสังคม การได้รับการยอมรับและการยกย่องจากสังคม ได้มีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ให้สังคมและส่วนรวม รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การพัฒนาคุณภาพชิวิตตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
การวางแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ได้แก่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีบทบาทหน้าที่ในการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ขับเคลื่อน
การพัฒนาของหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาจากการผลักดันของธนาคารโลกกเพื่อให้ประเทศไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์
แนะแนวทางการวางแผนพัฒนาประเทศจัดตั้งสภาพัฒาการศึกษาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ และดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ
แนะแนวทางการวางแผนพัฒนาประเทศจัดตั้งสภาพัฒาการศึกษาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ และดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ
มาจนถึงปัจจุบัน การพัฒนาเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดการพัฒนาด้วยการนำกระบวนการวางแผนพัฒนาสังคมเข้ามา
ใช้ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และเปลี่ยนชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็น “สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” จนถึงปัจจุบัน
กล้องรักษาความปลอดภัย |
การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ซึ่งมีวิวัฒนาการตามลำดับ ดังนี้
1. แผนพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1
- รัฐบาลมุ่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ
- ส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ใช้วิชาการสมัยใหม่และการค้นคว้าวิจัยทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม
- รัฐบาลมีนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรี ส่งเสริมให้ด้านเอกชนลงทุนด้านเศรษฐกิจ โดยที่รัฐทำหน้าที่ควบคุม ส่งเสริม และจัดเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา
2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2
- รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่องจากแผนพัฒนา ฉบับที่ 1
- รัฐบาลดำเนินนโยบายด้วยการขยายการศึกษาภาคบังคับ การปรับปรุงและขยายการบริการด้านการศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก่อให้เกิดการมีงานทำ
3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3
- การพัฒนาทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับตลาด และสนับสนุนภาคเอกชนให้ลงทุนในวิสาหกิจพื้นฐานเพื่อลดต้นทุนการส่งสินค้าออก ปรับปรุงโครงสร้างสินค้าขาเข้า
- การพัฒนาสังคม เน้นการเพิ่มและกระจายการบริหารสัง เพื่อลดความแตกต่างในสภาพความเป็นอยู่ของคนระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ และภายในเขตเมืองให้น้อยลง
การขยายขอบเขตการฝึกอาชีพให้แก่เยาวชนนอกโรงเรียนเพื่อเตรียมเข้าสู่แรงงานในอนาคต แผนพัฒนาฉบับที่ 3 มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนดังนี้
การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในเขตเมือง การปรับปรุงความเป็นอยู่ของคนในเขตชนบท การสนับสนุนการวางแผนครอบครัวเพื่อลดอัตราการเพิ่มของประชากร
4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4
- การพัฒนาทางเศรษฐกิจ เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศที่ซบเซาให้มีเสถียรภาพและความมั่นคงด้วยการเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมเดิม โดยพัฒนาเศรษฐกิจต่อเนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3
- การพัฒนาสังคม การพัฒนาที่ผ่านมาชาวชนบทได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือมากขึ้น เกิดชุมชนแอดัด ปัญหาการติดยาเสพติด โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงจากประเทศเกษตรกรรมเป็นประเทศอุตสาหกรรม
4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4
- การพัฒนาทางเศรษฐกิจ เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศที่ซบเซาให้มีเสถียรภาพและความมั่นคงด้วยการเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมเดิม โดยพัฒนาเศรษฐกิจต่อเนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3
- การพัฒนาสังคม การพัฒนาที่ผ่านมาชาวชนบทได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือมากขึ้น เกิดชุมชนแอดัด ปัญหาการติดยาเสพติด โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงจากประเทศเกษตรกรรมเป็นประเทศอุตสาหกรรม
แผนพัฒนาฉบับนี้รัฐบาลจึงได้เน้นการแก้ไขปัญหาสังคม รวมทั้งทะนุบำรุงและรักษาศิลปวัฒนธรรมของชาติ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในแผนนี้ประกอบด้วย
การเน้นบทบาทของสตรีให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมงเพิ่มขึ้น ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชน
5. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5
- การพัฒนาเศรษฐกิจได้มีการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาก มุ่งกระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ สร้างความเป็นธรรมในสังคมและกระจายการถือครองสินทรัพย์ให้มากขึ้น
5. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5
- การพัฒนาเศรษฐกิจได้มีการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาก มุ่งกระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ สร้างความเป็นธรรมในสังคมและกระจายการถือครองสินทรัพย์ให้มากขึ้น
เน้นการสมดุลของการพัฒนาระหว่างสาขาเศรษฐกิจระหว่างพื้นที่และระหว่างกลุ่ม เพื่อไม่ให้การพัฒนาตกอยู่ในกลุ่มคนบางกลุ่มเหมือนที่ผ่านมา
- การพัฒนาสังคม การพัฒนาโครงสร้างและการกระจายบริการสังคม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อภาวะสังคมโดยรวม
- การพัฒนาสังคม การพัฒนาโครงสร้างและการกระจายบริการสังคม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อภาวะสังคมโดยรวม
6. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6
- การพัฒนาเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจหลายด้าน เป็นปัญหาสะสมต่อเนื่อง ปัญหาความยากจน ปัญหาการกระจายรายได้ และปัญหาความผันผวนจากเศรษฐกิจโลก
การพัฒนาประเทศจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 6 เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ เพื่อเพิ่มฐานะการแข่งขันไทยในตลาดต่างประเทศ
มุ่งกระจายรายได้และความเจริญไปสู่ภูมิภาคและชนบท ปรับปรุงโครงสร้างภาษีอากร เพื่อสนับสนุนการลงทุนให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
- การพัฒนาสังคม ได้ให้ความสำคัญกับการขยายบริการพื้นฐานทางด้านสังคม แต่ปัญหาสังคมไทยกลับมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น การพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 6
- การพัฒนาสังคม ได้ให้ความสำคัญกับการขยายบริการพื้นฐานทางด้านสังคม แต่ปัญหาสังคมไทยกลับมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น การพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 6
ให้ความสำคับการพัฒนาสังคมโดยถือว่าคนเป็นทรัพยากรที่มีค่าในการพัฒนาประเทศ เมื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพแล้วจะส่งผลให้ชุมชนและสังคมมีคุณภาพดีตามไปด้วย
แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 6 พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย คือ การดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มีประชากรในขนาดและโครงสร้างที่เหมาะสม
เน้นการพัฒนาคุณภาพคน เสริมสร้างความสงบสุขในสังคมและป้องกันอาชญากรรม อุบัติภัย มุ่งบรรเทาการว่างงาน สนับสนุนให้องค์กรด้านเอกชน ชุมชน และครอบครัว ได้มีส่วนร่วมในการป้องกัน
7. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7
- การพัฒนเศรษฐกิจ เป็นผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับสูงและเปิดกว้างเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจนานาชาติมากขึ้น คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การพัฒนาก็ยังมีความไม่สมดุลอยู่หลายอย่าง
7. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7
- การพัฒนเศรษฐกิจ เป็นผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับสูงและเปิดกว้างเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจนานาชาติมากขึ้น คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การพัฒนาก็ยังมีความไม่สมดุลอยู่หลายอย่าง
ทำให้เสถียรภาพทางการคลังของประเทศอาจไม่มั่นคง แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ จึงมุ่งเน้นการขายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ การพัฒนาไปสู่ภูมิภาคและชนบทให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
- การพัฒนาทางสังคม แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ ฉบับที่ 7 มุ่งเน้นการลดอัตราการเพิ่มประชากรลง การขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก 6 ปีเป็น 9 ปี
- การพัฒนาทางสังคม แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ ฉบับที่ 7 มุ่งเน้นการลดอัตราการเพิ่มประชากรลง การขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก 6 ปีเป็น 9 ปี
พัฒนาคุณภาพประชากรด้วยการจัดให้มีการศึกษาตลอดชีวิตทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ขยายการมีงานทำ เสริมสร้างโอกาสให้กลุ่มด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจให้มีความมั่นคง
ยกระดับสุขภาพอนามัยของประชาชน และการพัฒนาคุณภาพให้มีคุณธรรม มีความสามารถ และมีพลานามัยที่สมบูรณ์ และได้เสริมสร้างชีวิตของประชากรดังนี้
สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่น วางแผนปรับปรุงจัดหาบริการพื้นฐานให้เพียงพอกับการขยายตัวของชุมขนเมืองและชุมชนเมืองใหม่ ให้ความสำคัญต่อการขยายบริการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การยกระดับดรายได้และสวัสดิการแรงงาน ส่งเสริมให้ประชากรมีสุขภาพดี
8. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ผลสำเร็จจากการพัฒนาคนส่วนใหญ่ได้รับบริการพื้นฐานมากขึ้น การพัฒนาประเทศบรรลุเป้าหมาย
8. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ผลสำเร็จจากการพัฒนาคนส่วนใหญ่ได้รับบริการพื้นฐานมากขึ้น การพัฒนาประเทศบรรลุเป้าหมาย
แม้ว่าความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล การมุ่งเน้นการแข่งขันและความมั่งคงทำให้คนมีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 จึงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาการพัฒนาที่ขาดสมดุลคือเศรษฐกิจดี สังคมมีปัญหา
การพัฒนาไม่ยั่งยืน ด้วยการปรับเปลี่ยนการพัฒนาแบบองค์รวมจะทำให้การพัฒนามีประสิทธิภาพและได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 มีสาระสำคัญคือ
การพัฒนาไม่ยั่งยืน ด้วยการปรับเปลี่ยนการพัฒนาแบบองค์รวมจะทำให้การพัฒนามีประสิทธิภาพและได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนา ยุทธศาสตร์การพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 มีสาระสำคัญคือ
การพัฒนาคน การพัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมให้เอื้อต่อการพัฒนาคน การเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาของภูมิภาคและชนบท เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของงประชากรอย่างทั่งถึง
การพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาประชารัฐ และการบริหารจัดการเพื่อให้มีการนำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
9. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 ได้อัญเชิญแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ
9. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 ได้อัญเชิญแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ
โดยมีจุดมุ่งหมายเน้นการแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและยกระดับคุณภาพชีวิตของประเทศให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและความอยู่ดีมีสุข
โดยการพัฒนาที่สำคัญได้แก่ การเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก การบรรเทาปัญหาสังคม การแก้ปัญหาความยากจน เป็นต้น
10. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ในแผนพัฒนาฉบับนี้ก็ยังคงนำ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ
10. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ในแผนพัฒนาฉบับนี้ก็ยังคงนำ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ
ควบคู่กับกระบวนการทัศน์การพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวม ที่มี “คนเป็นศูนย์กลางพัฒนา” และใช้เศรษฐกิจเป็นเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้น ประเทศไทยต้องเผชิญกับบริบทของการพัฒนาในกระแสโลกาภิวัตน์หลายด้าน
ดังนั้นการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 10 จึงมุ่งสู่ “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขรวมกัน” คือการพัฒนาให้มีคุณภาพ คุณธรรม เสริมสร้างเศรษฐกิจให้มีคุณภาพ เสถียรภาพ และเป็นธรรม
ดังนั้นการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 10 จึงมุ่งสู่ “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขรวมกัน” คือการพัฒนาให้มีคุณภาพ คุณธรรม เสริมสร้างเศรษฐกิจให้มีคุณภาพ เสถียรภาพ และเป็นธรรม
ดำรงความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างความมั่นคงบนฐานทรัพยกรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อม พัฒนาระบบบริหารจัดการประเทศให้เกิดธรรมาภิบาลภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
11. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 มุ่งพัฒนาประเทศภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อเนื่องและขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในทุกระดับ
11. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 มุ่งพัฒนาประเทศภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อเนื่องและขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในทุกระดับ
ยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของสังคม พัฒนาสู่ความสมดุลในทุกมิติอย่างบูรณาการและเป็นองค์รวม ในการพัฒนามีสาระสำคัญคือ การเตรียมคนไทยให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาสนับสนุนที่เอื้อต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา การเตรียมความพร้อมของไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
การบริหารจัดการน้ำและที่ดินเพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหาร และปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การยกระดับขีดความสามารถในการปรับตัว การบริหารจัดการประเทศเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 กับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
1. พัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ ภาคการผลิต อุตสาหกรรมแปรรูป รวมทั้งผู้ประกอบการ เพื่อให้มีความรู้และมีสมรรถนะในการแข่งขันในระบบเสรี เตรียมความพร้อมธุรกิจ ตลอดจนแนวทางการขยายตลาดตามโอกาสและข้อตกลงใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น
2. ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและบริการด้านสาธารณสุข บุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางให้บริการสุขภาพของภูมิภาค
3. เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสากล การยกระดับฝีมือแรงงานและทักษะด้านภาษา เพื่อเตรียมความพร้อมของแรงงานไทยสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยมีบทบาทร่วมกับประเทศอื่นในอาเซียน
4. กำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อป้องกันสินค้าและบริการนำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพ
แนวทางการพัฒนาจะเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและความร่วมมือดังนี้
- ภาคเหนือ พัฒนาเชื่อมโยงสู่กลุ่มประเทศอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนและกลุ่มเอเชียใต้ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 กับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
1. พัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ ภาคการผลิต อุตสาหกรรมแปรรูป รวมทั้งผู้ประกอบการ เพื่อให้มีความรู้และมีสมรรถนะในการแข่งขันในระบบเสรี เตรียมความพร้อมธุรกิจ ตลอดจนแนวทางการขยายตลาดตามโอกาสและข้อตกลงใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น
2. ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและบริการด้านสาธารณสุข บุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางให้บริการสุขภาพของภูมิภาค
3. เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสากล การยกระดับฝีมือแรงงานและทักษะด้านภาษา เพื่อเตรียมความพร้อมของแรงงานไทยสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยมีบทบาทร่วมกับประเทศอื่นในอาเซียน
4. กำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อป้องกันสินค้าและบริการนำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพ
แนวทางการพัฒนาจะเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและความร่วมมือดังนี้
- ภาคเหนือ พัฒนาเชื่อมโยงสู่กลุ่มประเทศอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนและกลุ่มเอเชียใต้ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ
โดยเร่งพัฒนาระบบระบบโลจิสติกส์ โครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง สร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และกำหนดมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบเชิงลบจากการเปิดเสรีทางการค้า
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พัฒนาชายแดนและด่านชายแดนให้เป็นประตูการค้า การท่องเที่ยว เชื่อมโยงกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และพัฒนาให้เป็นเมืองสนับสนุน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พัฒนาชายแดนและด่านชายแดนให้เป็นประตูการค้า การท่องเที่ยว เชื่อมโยงกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และพัฒนาให้เป็นเมืองสนับสนุน
การเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและเอเชียตะวันออก พร้อมทั้งพัฒนาระบบโครงสร้าพื้นฐานรองรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3
- ภาคกลาง พัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ มาตรฐานการให้บริการและอำนวยความสะดวกบริเวณเขตเศรษฐกิจชายแดน
- ภาคกลาง พัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ มาตรฐานการให้บริการและอำนวยความสะดวกบริเวณเขตเศรษฐกิจชายแดน
การเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตนิคมอุตสาหกรรมทวาย
ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือระหว่างไทยกับเมียนมาร์ พัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือน้ำลึกทวาย ท่าเรือแหลมฉบัง และประเทศอื่นในภูมิภาค
- ภาคใต้ พัฒนาโดยใช้กรอบความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซียและกรอบความร่วมมือเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดจีน-มาเลเซียร์-ไทย
- ภาคใต้ พัฒนาโดยใช้กรอบความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซียและกรอบความร่วมมือเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดจีน-มาเลเซียร์-ไทย
การพัฒนาเมืองชายแดนและเขตเศรษฐกิจชายแดนเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นประตูการค้า การท่องเที่ยว และขนส่งกับมาเลเซียและสิงคโปร์
พัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนสะเดาบูกิตกายูฮิดัม เชื่อมโยงกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซีย พัฒนาทางหลวงพิเศษ
รวมทั้งพัฒนาทักษะทางด้าานภาษาและฝีมือแรงงานให้พร้อมรองรับการเปิดเนภาษาและฝีมือแรงงานให้พร้อมรองรับการเปิดเสรีทางการค้า การลงทุน และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
กรอบวิสัยทัศน์แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 ให้ความสำคัญกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาสู่การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศมีรายได้สูง
มีความมั่นคง และยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
1. กรอบวิสัยทัศน์และเป้าหมาย มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาว “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ของประเทศ
2. ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์และเป้าหมาย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและมีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคสู่ความเป็นชาติการค้าและบริการ
1. กรอบวิสัยทัศน์และเป้าหมาย มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาว “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ของประเทศ
2. ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์และเป้าหมาย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและมีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคสู่ความเป็นชาติการค้าและบริการ
เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย แหล่งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และมีนวัตกรรมสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. เป้าหมายการพัฒนาประกอบด้วยเป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง
3. เป้าหมายการพัฒนาประกอบด้วยเป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง
การพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศและการสร้างสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
กระจายรายได้ให้มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น การสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งอวดล้อมรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร
เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีการบริหารจัดการน้ำให้สมดุล การบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ
4. แนวทางการพัฒนา การยกระดับศักยภาพการแข่งขันและการหะดับศักยภาพการแข่งขันและการหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง
4. แนวทางการพัฒนา การยกระดับศักยภาพการแข่งขันและการหะดับศักยภาพการแข่งขันและการหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง
การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาศักยภาพคนตามช่วงวัยและการปฏิรูประบบเพื่อสร้างสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
การพัฒนาด้านสุขภาพเพื่อรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การจัดบริการทางสังคมให้ทุกคนตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
การรองรับการเชื่อมโยงภูมิภาคและความเป็นเมือง การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของเมือง
การรองรับการเชื่อมโยงภูมิภาคและความเป็นเมือง การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของเมือง
การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตสีเขียวใช้ประโยชน์จากทุนธรรมชาติ
การพัฒนาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และการบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ การบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ
การสร้างความโปร่งใส การพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีความเป็นมืออาชีพและเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตาม และประเมินผล โครงการที่ใช้จ่ายมากและมีผลกระทบในวงกว้าง
ประเทศไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ เพื่อใช้เป็นกรอบกำหนดทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 11
ประเทศไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ เพื่อใช้เป็นกรอบกำหนดทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 11
เป็นช่วงที่ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งภายในและภายนอกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างกว้างขวาง ประเทศไทยจะต้องก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558
ประชาคมอาเซียน
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ “อาเซียน” เป็นองค์การทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประชาคมอาเซียน
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ “อาเซียน” เป็นองค์การทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นโดยสมาชิกเริ่มต้นจำนวน 5 ประเทศมีวัตถุประสงค์
เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาเซียนมีรัฐสมาชิกเพิ่มขึ้นจนเป็น 10 ประเทศในปัจจุบัน “กฎบัตรอาเซียน” ได้มีการลงนามซึ่งทำให้อาเซียนมีลักษณะคล้ายกับสหภาพยุโรปมากยิ่งขึ้น
การกำหนดเป้าหมายว่าภายในปี ค.ศ. 2020
- วงสมานฉันท์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างมีพลวัต
- มุ่งปฏิสัมพันธ์กับประเทศภายนอก
- ชุมชนแห่งสังคมที่เอื้ออาทร
ประชาคมอาเซียนประกอบด้วย 3 เสาหลักได้แก่
1. ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน มีวัตถุประสงค์ทำให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และยึดมั่นในหลักความมั่นคงรอบด้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนได้
2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป้าหมายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างอาเซียนมีองค์ประกอบสำคัญคือ การเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน
การกำหนดเป้าหมายว่าภายในปี ค.ศ. 2020
- วงสมานฉันท์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างมีพลวัต
- มุ่งปฏิสัมพันธ์กับประเทศภายนอก
- ชุมชนแห่งสังคมที่เอื้ออาทร
กล้องรักษาความปลอดภัย |
ประชาคมอาเซียนประกอบด้วย 3 เสาหลักได้แก่
1. ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน มีวัตถุประสงค์ทำให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และยึดมั่นในหลักความมั่นคงรอบด้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนได้
2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป้าหมายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างอาเซียนมีองค์ประกอบสำคัญคือ การเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน
มีการเคลื่อนย้ายสินค้าบริการ การลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรี และเงินลงทุนที่เสรีมากขึ้น มุ่งสร้างความเท่าเทียมในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศอาเซียน
ความสามารถในการแข่งขันกับภูมิภาคอื่นที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ชาติสมาชิกสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ มีโครงการเชื่อมโยงเส้นทางหลวงอาเซียน
การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ปรับมาตรฐานของเส้นทางคมนาคมทางบกและทางรถไฟให้มีมาตรฐานเดียวกันและส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นด้วย
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการขยายการส่งออกและโอกาสทางการค้า และการบริการในสาขาที่ประเทศไทยมีความสามารถในการแขงขัน
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการขยายการส่งออกและโอกาสทางการค้า และการบริการในสาขาที่ประเทศไทยมีความสามารถในการแขงขัน
จะเพิ่มอำนาจการต่อรองของอาเซียนในเวทีการค้าโลก และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในอาเซียนโดยรวม ประชาคมสังคม – วัฒนธรรมอาเซียน
จุดมุ่งหมายที่ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ร่วมกันในสังคมที่เอื้ออาทรประชากรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีได้รับการพัฒนาทุกด้าน และมีความมั่นคงทางสังคม
เน้นการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ คือ การพัฒนาสังคม การพัฒนาฝึกอบรม การส่งเสริมความร่วมมือในด้านสาธารณสุข การจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ในภูมิภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น