รับติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย
กับมารยาทของช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด
ในสังคมบุคคลควรปฏิบัติกิริยาวาจาอย่างมีระเบียบแบบแผนใช้คำพูดที่สุภาพ รวมทั้ง การยืน การนั่ง การเดิน และการแสดงความเคารพ การรับของและการส่งของส่วนมารยาทไทยนั้นหมายถึงกิริยาวาจาที่คนไทยว่าเรียบร้อย และถูกลักษณะนิสัยของคนไทยที่เป็นคนอ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสงบเสงี่ยมทั้งกายและวาจา
แสดงให้เห็นระเบียบแบบแผนของการประพฤติปฏิบัติแบบไทยที่บรรพบุรุษได้กำหนดขึ้นมาให้เหมาะสมกับกาลเทศะและกรอบของสังคมไทยที่เป็นที่ยอมรับมาหลายยุคหลายสมัยและควรสืบทอดไว้เป็นมรดกของสังคมไทยต่อไป
ความสำคัญของมารยาท สำหรับช่างกล้องวงจรปิด
การแสดงออกที่เห็นได้ชัดเจนของแต่ละบุคคลที่ปฎิบัติระหว่างกันตามสถานภาพ บทบาท และหน้าที่ในสังคมซึ่งมีความสำคัญ พื้นฐานที่สำคัญของมารยาท ความสุภาพและสำรวมกายวาจา
เมื่ออยู่ร่วมกันในสังคม มารยาทสะท้อนถึงวัฒนธรรมความเจริญงอกงามรุ่งเรืองของชาติ และยังมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมด้วย
การแสดงออกที่เกิดผลดีต่อตนเองทำให้ผู้อื่นพอใจ และตนเองก็เป็นผู้มีเกียรติด้วย การมีมารยาทดีงามจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและประสบความสำเร็จในชีวิต
มารยาทในสังคมของแต่ละชาติมีลักษณะที่แตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบ่งบอกถึงความเป็นชาติอาจมีความคล้ายคลึงกัน เป็นผลมาจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อมและอิทธิพลของความเชื่อ
มารยาทในสังคมของแต่ละชาติมีลักษณะที่แตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบ่งบอกถึงความเป็นชาติอาจมีความคล้ายคลึงกัน เป็นผลมาจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อมและอิทธิพลของความเชื่อ
และความคิด รวมทั้งแต่ละสังคมที่มีระเบียบกฏเกณฑ์ การปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนา และพื้นฐานความเป็นชาติของสังคมนั้น ๆ วิถีการดำเนินชีวิตของสังคมไทยได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนา
และสังคมเกษตรกรรมทำให้มีบุคลิกที่อ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเคารพต่อผู้มีอาวุโสกว่าทั้งทางด้านวัยวุฒิและคุณวุฒิ มารยาทไทยเป็นกิริยาวาจาที่สุภาพเรียบร้อย อ่อนโยน
นอบน้อมต่อผู้อาวุโส ทำให้มารยาทไทยได้รับการยกย่องจากนานาประเทศว่า “เป็นชาติที่มีมารยาทงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”
สินค้าแนะนำ : กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย
ความสำคัญของมารยาทที่ช่างกล้องวงจรปิดต้องรู้
1. มารยาทจะเป็นเครื่องชี้ถึงพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว การศึกษา การประกอบอาชีพ รวมถึงสิ่งแวดล้อมของแต่ละบุคล มีผลต่อการให้คุณค่าต่อกันและกันในสังคม
2. มารยาททำให้สังคมมีระเบียบแบบแผน สมาชิกในสังคมปฏิบัติตัวตามกฏเกณฑ์ เช่น การมีวินัย การรักษาความสะอาด เป็นต้น ซึ่งแนวทางปฏิบัติดังกล่าวเป็นมารยาทโดยทั่วไปในทุกสังคม
และนำมาถึงความเจริญและความสงบเรียบร้อยในสังคม ผู้ที่มีมารยาทดีจะสามารถสืบทอดขนบธรรมเนียมอันเป็นมรดกของชาติและช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของความเป็นชาติให้แก่คนทั่วไป
มารยาทถือเป็นการแสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำให้สามารถคล้องจิตใจคนอื่นที่คบหาสมาคมได้ และย่อมได้รับความนิยมให้เป็นผู้ที่น่าคบค้าสมาคมของคนทั่วไป
บุคคลที่มีกิริยามารยาทที่ดี ผู้ที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างให้เกียรติ สุภาพ และถูกกาละเทศะ ย่อมได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีบุคลิกภาพที่ดีในสังคม และได้รับความเคารพนับถือในสังคมและสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างสง่างาม
ประเภทของมารยาทในสังคมไทย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้มีการกำหนดแนวทางของการปฏิบัติมารยาทไทยออกเป็น 15 พฤติกรรม ดังนี้
1. การแสดงความเคารพ
2. การยืน
3. การเดิน
4. การนั่ง
5. การนอน
6. การรับ – ส่งสิ่งของ
7. การแสดงกิริยาอาการ
8. การรับประทานอาหาร
9. การให้และการรับบริการ
10. การทักทาย
11. การสนทนา
12. การใช้คำพูด
13. การฟัง
14. การใช้เครื่องมืสื่อสาร
15. การประพฤติปฏิบัติในพิธีการต่าง ๆ
ประเภทของมารยาทในสังคมไทย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้มีการกำหนดแนวทางของการปฏิบัติมารยาทไทยออกเป็น 15 พฤติกรรม ดังนี้
1. การแสดงความเคารพ
2. การยืน
3. การเดิน
4. การนั่ง
5. การนอน
6. การรับ – ส่งสิ่งของ
7. การแสดงกิริยาอาการ
8. การรับประทานอาหาร
9. การให้และการรับบริการ
10. การทักทาย
11. การสนทนา
12. การใช้คำพูด
13. การฟัง
14. การใช้เครื่องมืสื่อสาร
15. การประพฤติปฏิบัติในพิธีการต่าง ๆ
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับมารยาทของช่างกล้องวงจรปิด
โดยทั่วไปถือเป็นมารยาทของคนที่ได้รับการยอมรับและนิยมประพฤติปฏิบัติกันโดยทั่ว ๆ ไปในสังคมที่มีความเจริญเราสามารถแบ่งมารยาทออกเป็น 3 ประเภทได้ดังนี้
1. มารยาทโดยทั่วไปในสังคม แนวทางปฏิบัติของพฤติกรรมที่แสดงถึงการเคารพและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ที่ประกอบด้วยการเคารพต่อสถานที่ เคารพต่อบุคคล
และการเคารพต่อสภาพการณ์หรือสภาพแวดล้อม พฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ในปัจจุบันมีการติดต่อกันอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
การติดต่อกันระหว่างคนที่มีความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นได้ง่ายและเกิดขึ้นตลอดเวลา
การไม่ระวังการแสดงออกของตนอาจทำให้กลายเป็นคนไร้มารยาทโดยไม่ตั้งใจ ในโลกปัจจุบันการเรียนรู้และการทำตนให้ถูกต้องตามมารยาทในสังคมถือ
การไม่ระวังการแสดงออกของตนอาจทำให้กลายเป็นคนไร้มารยาทโดยไม่ตั้งใจ ในโลกปัจจุบันการเรียนรู้และการทำตนให้ถูกต้องตามมารยาทในสังคมถือ
เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการดำเนินชีวิต เช่น มารยาทในการแต่งกาย สะอาดสุภาพเรียบร้อยให้ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะและสถานที่ มารยาทในกิริยาท่าทางและคำพูด
มารยาทในการคบหาสมาคมกับผู้อื่นการให้เกียรติผู้อื่นและการมีความจริงใจต่อกัน รวมถึงมารยาทในการยืน การเดิน และการนั่ง
2. มารยาทตามกาลเทศะ การปฏิบัติบัติตนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้้งกิริยาและคำพูด โดยเฉพาะในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขยายอย่างกว้างขวางทำให้อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้เป็นส่วนหนึ่ง
2. มารยาทตามกาลเทศะ การปฏิบัติบัติตนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้้งกิริยาและคำพูด โดยเฉพาะในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขยายอย่างกว้างขวางทำให้อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้เป็นส่วนหนึ่ง
ในการดำเนินชีวิตและกลายเป็นมารยาทในสังคมหลักการก็คือการใช้ให้ถูกต้อง ถูกกาลเทศะ พอเหมาะพอควร และไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
ในปัจจุบันมารยาทตามกาลเทศะมีดังนี้ มารยาทในการรับประทานอาหารทั้งภายในครอบครัวและญาติมิตรรวมถึงการรับประทานอาหารในงานสมาคมต่าง ๆ มารยาทในการแนะนำตัวด้วยการใช้คำพูดง่าย ๆ
แต่สุภาพเรียบร้อย มารยาทในการใช้โทรศัพท์มือถือด้วยการใช้น้ำเสียงท่าทางและไม่ควรให้เบอร์โทรศัพท์ของบุคคลอื่นให้กับผู้อื่นโดยที่เจ้าของเบอร์ยังไม่ได้อนุญาต มารยาท
แต่สุภาพเรียบร้อย มารยาทในการใช้โทรศัพท์มือถือด้วยการใช้น้ำเสียงท่าทางและไม่ควรให้เบอร์โทรศัพท์ของบุคคลอื่นให้กับผู้อื่นโดยที่เจ้าของเบอร์ยังไม่ได้อนุญาต มารยาท
ในการใช้รถหรือเรือโดยสารประจำทาง ในระหว่างรอไม่ควรพูดหรือคุยโดยใช้เสียงที่ดังหรือการแย่งกันขึ้นรถหรือลงเรือควรระมัดระวังอย่างสิ่งของๆตนเองไปกระทบหรือกระแทก
โดยผู้อื่น และรวมถึงมารยาทในการใช้ลิฟต์ ควรให้คนในลิฟต์ออกมาก่อนและขณะที่อยู่ในลิฟต์ไม่ควรสนทนาหรือถ้าจำเป็นควรใช้เสียงที่เบาไม่รบกวนผู้อื่น
มารยาทไทย
ถือเป็นวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนาและสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติมาเป็นเวลายาวนาน
หลักการสำคัญของมารยาทไทยคือ การสภาพอ่อนน้อม การเคารพในระบบอาวุโส เราจะเห็นได้จากคำพูดกิริยาที่มีคำลงท้ายเฉพาะบุคคล
การเดิน นั่ง ยืน ที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ในแต่ละโอกาส และมีการเผยแพร่มารยาทไทยในการพบปะสมาคมในสังคมที่สำคัญได้แก่
การรู้จักวางตน เป็นการปฏิบัติตามสถานภาพและบทบาทหน้าที่ของตนที่ได้รับมาอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ซึ่งประกอบด้วย การวางตนอยู่ในศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพ ความเหมาะสม
การรู้จักวางตน เป็นการปฏิบัติตามสถานภาพและบทบาทหน้าที่ของตนที่ได้รับมาอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ซึ่งประกอบด้วย การวางตนอยู่ในศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพ ความเหมาะสม
และมีความเป็นกลาง เช่น ไม่ทำพฤติกรรมที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ตนเองและผู้อื่น ทำในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น และมีคุณสมบัติที่ก่อให้เกิดความงดงาม รวมถึงมีความเที่ยงตรงและเป็นธรรมในการดำเนินชีวิต
การรู้จักประมาณตน หลักธรรมที่ควรยึดถือของคนดีมี 7 ประการได้แก่ รู้จักเหตุผล รู้ความมุ่งหมาย รู้จักตนและความสามารถของตนเอง รู้จักประมาณถึงความพอดี รู้จักกาลเวลาที่เหมาะสม
การรู้จักประมาณตน หลักธรรมที่ควรยึดถือของคนดีมี 7 ประการได้แก่ รู้จักเหตุผล รู้ความมุ่งหมาย รู้จักตนและความสามารถของตนเอง รู้จักประมาณถึงความพอดี รู้จักกาลเวลาที่เหมาะสม
รู้จักสภาพแวดล้อมของตน และรู้จักความแตกต่างของตนเอง เช่น ไม่ทำตัวให้เด่นเกินพอดี เรียกร้องความสนใจ หรือการสร้างจุดสนใจให้ตนเองอย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ เป็นต้น
การรู้จักพูดจา การใช้คำพูดที่สุภาพ พูดในสิ่งและเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ใช้ภาษาที่สร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ไม่ใช้คำพูดที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือเกิดความอับอาย ไม่ใช้เสียงข่มขู่ผู้อื่น เป็นต้น
การควบคุมอารมณ์ ควรระมัดระวังการกระทำและจิตใจของตนเองให้สงบ สำรวม ไม่ฟุ้งซ่านและไม่แสดงอาการประชดประชัน และใช้อารมณ์กระทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เช่น อารมณ์โกรธ และโมโหจนกระทั่งทำร้ายตนเองผู้อื่น
การสำรวมกิริยา การระมัดระวังกิริยาอาการของตนเองให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมและให้สุภาพเรียบร้อย ทำอย่างถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล เช่น การเดินผ่านผู้ใหญ่ควรก้มตัวพองามหรือไม่ควรเดินผ่านกลางขณะที่ผู้ใหญ่กำลังสนทนากันอยู่ เป็นต้น
การควบคุมอิริยาบถ การระมัดระวังกิริยาท่าทางของตนเองให้สุภาพ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง นอน ยืน และการเดิน ให้ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ พฤติกรรมที่ไม่ควรแสดงหรือกระทำ เช่น การกระดิกเท้า ตบมือ หรือส่งเสียงดัง โดยไม่เลือกเวลา โอกาส หรือสถานที่ที่เหมาะสม
ความมีน้ำใจไมตรีอันดีต่อกัน ความเห็นอกเห็นใจ การเอาใจใส่ต่อผู้อื่นและการแสดงไมตรีจิตที่ดีต่อกัน เช่น เอื้ออาทร และความห่วงใย
การช่วยเหลือผู้อื่น การกระทำต่อผู้อื่นและส่วนร่วม ซึ่งถือเป็นค่านิยมสำหรับคนไทยที่มีความเป็นมิตรกับทุกคน มีความจริงใจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น
มารยาทในการแสดงความเคารพ
การไหว้ กิริยาที่แสดงการมีสัมมมาคารวะ มิตรภาพและไมตรีจิต และการให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นวัฒนธรรมไทยใช้เมื่อมีการทักทาย หรือพบปะกันและลาจากกันพร้อมกับกล่าวคำว่า “สวัสดี”
การรู้จักพูดจา การใช้คำพูดที่สุภาพ พูดในสิ่งและเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ใช้ภาษาที่สร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ไม่ใช้คำพูดที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือเกิดความอับอาย ไม่ใช้เสียงข่มขู่ผู้อื่น เป็นต้น
การควบคุมอารมณ์ ควรระมัดระวังการกระทำและจิตใจของตนเองให้สงบ สำรวม ไม่ฟุ้งซ่านและไม่แสดงอาการประชดประชัน และใช้อารมณ์กระทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เช่น อารมณ์โกรธ และโมโหจนกระทั่งทำร้ายตนเองผู้อื่น
การสำรวมกิริยา การระมัดระวังกิริยาอาการของตนเองให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมและให้สุภาพเรียบร้อย ทำอย่างถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล เช่น การเดินผ่านผู้ใหญ่ควรก้มตัวพองามหรือไม่ควรเดินผ่านกลางขณะที่ผู้ใหญ่กำลังสนทนากันอยู่ เป็นต้น
การควบคุมอิริยาบถ การระมัดระวังกิริยาท่าทางของตนเองให้สุภาพ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง นอน ยืน และการเดิน ให้ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ พฤติกรรมที่ไม่ควรแสดงหรือกระทำ เช่น การกระดิกเท้า ตบมือ หรือส่งเสียงดัง โดยไม่เลือกเวลา โอกาส หรือสถานที่ที่เหมาะสม
ความมีน้ำใจไมตรีอันดีต่อกัน ความเห็นอกเห็นใจ การเอาใจใส่ต่อผู้อื่นและการแสดงไมตรีจิตที่ดีต่อกัน เช่น เอื้ออาทร และความห่วงใย
การช่วยเหลือผู้อื่น การกระทำต่อผู้อื่นและส่วนร่วม ซึ่งถือเป็นค่านิยมสำหรับคนไทยที่มีความเป็นมิตรกับทุกคน มีความจริงใจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น
มารยาทในการแสดงความเคารพ
การไหว้ กิริยาที่แสดงการมีสัมมมาคารวะ มิตรภาพและไมตรีจิต และการให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นวัฒนธรรมไทยใช้เมื่อมีการทักทาย หรือพบปะกันและลาจากกันพร้อมกับกล่าวคำว่า “สวัสดี”
การแสดงออกถึงการขอบคุณและการขอโทษ การแสดงความเคารพจะมีความแตกต่างกันตามระบบผู้อาวุโสในสังคมไทย เช่น การไหว้เพื่อเคารพต่อผู้มีอาวุโสมากต้องแสดงด้วยอาการอ่อนน้อมถ่อมตน
การไหว้และลักษณะของการไหว้ในสังคมไทยมีลักษณะแตกต่างกันไปตามโอกาสและสถานภาพของบุคคล ซึ่งประกอบด้วยกิริยา 2 ส่วน คือการประนมมือไหว้และการไหว้ และอีกอย่างหนึ่งก็คือการกราบ
การถวายความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย จะมีธงประจำพระองค์ เวลาเสด็จฯ ออกนอกพระราชฐาน ธงมหาราชจะปักอยู่หน้ารถพระที่นั่ง
การถวายความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย จะมีธงประจำพระองค์ เวลาเสด็จฯ ออกนอกพระราชฐาน ธงมหาราชจะปักอยู่หน้ารถพระที่นั่ง
และเพลงสรรเสริญพระบารมีเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนพระองค์ท่าน ทุกควรรู้มารยาทในการถวายความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินผ่านให้สุภาพบุรุษถวายคำนับและสุภาพสตรีถอนสายบัว
การรับและการส่งของ
การทูลเกล้า ถวายของและการรับพระราชทาน การทูลเกล้าฯ การถวายของในขณะที่ประทับในอาคารหรือในพลับพลาของที่จะถวายจะต้องมีภาชนะรองรับ เช่น พานโดยถือสองมือประคองที่คอพาน
และถวายความเคารพโดยสุภาพบุรุษใช้คำนับ ส่วนสุภาพสตรีใช้ถอนสายบัว เมื่อใกล้ที่ประทับให้ถวายความเคารพแล้วย่อตัวลงยกพานขึ้นทูลเกล้าฯกราบ
เมื่อทรงหยิบของในพานแล้ว ลุกขึ้นยืนตรงแล้วถวายความเคารพอีกครั้งแล้วถอยหลังออกไปเล็กน้อยถวายความเคารพอีกครั้ง จึงหันหลังกลับไป
หากทูลเกล้าฯถวายของขณะนั่งประทับให้คลานเข้าไปแทนการเดินแล้วถวายความเคารพด้วยการหมอบกราบ
การรับพระราชทานสิ่งของ ผู้รับเดินเข้าไปด้วยอาการที่สำรวม และอยู่ห่างพอประมาณถวายความเคารพแล้วย่อตัวลงโดยยื่นเท้าขวาไปข้างหน้า ยกมือขวาขึ้น “เอางาน”
การรับพระราชทานสิ่งของ ผู้รับเดินเข้าไปด้วยอาการที่สำรวม และอยู่ห่างพอประมาณถวายความเคารพแล้วย่อตัวลงโดยยื่นเท้าขวาไปข้างหน้า ยกมือขวาขึ้น “เอางาน”
แล้วรับพระราชทานของแล้วลุกขึ้นยืนตรงถวายความเคารพ ถอยหลังออก ถ้าผู้รับพระราชทานนั่งอยู่เมื่อลุกจากเก้าอี้จะต้องถวายความเคารพ 1 ครั้ง และเมื่อกลับไปนั่งให้ถวายความเคารพอีก 1 ครั้ง
การถวายบังคม การถวายความเคารพพระมหากษัตริย์และพระราชินี รวมทั้งพระบรมรูปตามธรรมเนียมไทย ซึ่งทั้งสุภาพบุรุษและสตรี มีวิธีปฏิบัติดังนี้
การถวายบังคม การถวายความเคารพพระมหากษัตริย์และพระราชินี รวมทั้งพระบรมรูปตามธรรมเนียมไทย ซึ่งทั้งสุภาพบุรุษและสตรี มีวิธีปฏิบัติดังนี้
ท่าเตรียม ให้นั่งคุกเข่า ปลายเท้าทั้งสองตั้งลงยันกับพื้นนั่งทับบนส้นเท้า นั่งตัวตรง อย่าห่อไหล่หรือยกไหล่ วางมือคว่ำลงบนหน้าขาทั้งสองโดยให้นิ้วมือทุกนิ้วแนบชิดกัน ท่าถวายบังคม มี 4 จังหวะ ดังนี้คือ
- ยกมือประนมขึ้นระหว่างอก ให้ปลายนิ้วตั้งตรง
- ยกมือประนมขึ้นพร้อมทอดแขนไปข้างหน้า ให้ปลายมือต่ำลง ปลายนิ้วมืออยู่ระดับท้อง โน้มตัวลงตามมือลงน้อย
- วาดมือประนมขึ้นจนนิ้วหัวแม่มือทั้งสองจรดหน้าผาก ลำตัวตั้งแต่เหนือเอวขึ้นไปเอนไปข้างหลัง เงยหน้าขึ้นในระดับ 45 องศา ให้ตกอยู่ระดับนิ้วหัวแม่มือในขณะที่มืออยู่ระดับจรดหน้าผาก ท่าเอนตัวนี้ลำตัวจะโค้งเล็กน้อย ศอกจะกางออก
- ลดมือลงพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า ให้มือลงมาถึงระดับหน้าท้อง ปลายมือต่ำแล้วยกมือขึ้นประนม ปลายมือตั้งขึ้นในระดับอกและยกตัวขึ้นตรงทำเช่นนี้ 3 ครั้ง
- ยกมือประนมขึ้นระหว่างอก ให้ปลายนิ้วตั้งตรง
- ยกมือประนมขึ้นพร้อมทอดแขนไปข้างหน้า ให้ปลายมือต่ำลง ปลายนิ้วมืออยู่ระดับท้อง โน้มตัวลงตามมือลงน้อย
- วาดมือประนมขึ้นจนนิ้วหัวแม่มือทั้งสองจรดหน้าผาก ลำตัวตั้งแต่เหนือเอวขึ้นไปเอนไปข้างหลัง เงยหน้าขึ้นในระดับ 45 องศา ให้ตกอยู่ระดับนิ้วหัวแม่มือในขณะที่มืออยู่ระดับจรดหน้าผาก ท่าเอนตัวนี้ลำตัวจะโค้งเล็กน้อย ศอกจะกางออก
- ลดมือลงพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า ให้มือลงมาถึงระดับหน้าท้อง ปลายมือต่ำแล้วยกมือขึ้นประนม ปลายมือตั้งขึ้นในระดับอกและยกตัวขึ้นตรงทำเช่นนี้ 3 ครั้ง
แล้วลดมือลงในระดับอก ท่าประนมมืออยู่ในท่าอัญชลี แล้วจึงปล่อยมือวางลงยนหน้าขาเหมือนเดิม แล้วเปลี่ยนจากจากท่านั่งเป็นท่าหมอบ
การแสดงความเคารพพระสงฆ์
- การแสดงความเคารพพระสงฆ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยนิยมกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 1 ครั้ง แต่ถ้าสถานที่ไม่เหมาะสมใช้วิธีการไหว้แทน
- การประเคนของแด่พระสงฆ์ ผู้ประเคนของเดินเข่าเข้าไปแล้วทำความเคารพด้วยการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์แล้วยกของที่จะถวายด้วย 2 มือยกของขึ้นประเคนส่งให้กับพระสงฆ์
การแสดงความเคารพพระสงฆ์
- การแสดงความเคารพพระสงฆ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยนิยมกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ 1 ครั้ง แต่ถ้าสถานที่ไม่เหมาะสมใช้วิธีการไหว้แทน
- การประเคนของแด่พระสงฆ์ ผู้ประเคนของเดินเข่าเข้าไปแล้วทำความเคารพด้วยการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์แล้วยกของที่จะถวายด้วย 2 มือยกของขึ้นประเคนส่งให้กับพระสงฆ์
โดยถ้าเป็นสุภาพบุรุษส่งประเคนของส่งต่อมือพระสงฆ์ได้ แต่ถ้าเป็นสุภาพสตรีให้ยกของวางบนผ้าที่พระสงฆ์ทอดออกมารับ แล้วถอยออกมาไหว้หรือกราบตามความเหมาะสม
- การรับของจากพระสงฆ์ ให้ใช้วิธีการเดินเข่าเข้าไปทำความเคารพโดยการกราบน้อมตัวรับสิ่งของจากพระสงฆ์ สุภาพบุรุษให้ใช้มือขวาหรือทั้งสองมือรับของ ส่วนสุภาพสตรีพระสงฆ์จะวางของให้ให้ใช้มือขวาหรือทั้งสองมือหยิบ
- การสนทนากับพระสงฆ์ จะต้องสำรวมกิริยาและวาจาให้สุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคารวะ ถ้าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ให้ประนมมือขณะที่สนทนาด้วยและใช้คำพูดกับพระภิกษุสงฆ์ให้ถูกต้องและเหมาะสม
- การรับของจากพระสงฆ์ ให้ใช้วิธีการเดินเข่าเข้าไปทำความเคารพโดยการกราบน้อมตัวรับสิ่งของจากพระสงฆ์ สุภาพบุรุษให้ใช้มือขวาหรือทั้งสองมือรับของ ส่วนสุภาพสตรีพระสงฆ์จะวางของให้ให้ใช้มือขวาหรือทั้งสองมือหยิบ
- การสนทนากับพระสงฆ์ จะต้องสำรวมกิริยาและวาจาให้สุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคารวะ ถ้าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ให้ประนมมือขณะที่สนทนาด้วยและใช้คำพูดกับพระภิกษุสงฆ์ให้ถูกต้องและเหมาะสม
ในการสนทนาพระสงฆ์ท่านจะใช้คำว่า “เจริญพร” เป็นคำที่พระใช้ทักทายคนทั่วไปและใช้สรรพนามที่พระภิกษุกับบุคคลระดับต่าง ๆ “อาตมา” “คุณโยม”
ใช้กับบิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ ส่วนฆารวาส ซึ่งเป็นคนธรรมดาทั่วไปควรใช้คำแทนตัวเองว่า “ผม/กระผม หรือฉัน/ดิฉัน”
การรับของจากผู้ใหญ่
ในขณะที่ผู้ใหญ่ยืนให้เดินในอาการที่สำรวมไปในระยะใกล้และแสดงความเคารพโดยสุภาพบุรุษให้คำนับแล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อยน้อมตัวรับของ
โดยใช้มือขวาหรือทั้ง 2 มือ แล้วถอยเท้าขวากลับไปในท่าตรง ทำความเคารพเดินถอยหลังประมาณ 2-3 ก้าวหันหลังกลับ ส่วนสุภาพสตรีให้ย่อตัวไหว้โดยก้าวเท้าขวาไปข้างหลังเล็กน้อย ย่อเข่าซ้ายลง พร้อมกับยกมือไหว้
ถ้าในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งให้เดินในอาการที่สำรวมไปในระยะใกล้ แสดงความเคารพโดยสุภาพบุรพษให้คำนับ แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าทิ้งเข่าลงน้อมรับของลุกขึ้นยืนถอนเท้าขวากลับท่าตรงทำความเคารพ
ถ้าในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งให้เดินในอาการที่สำรวมไปในระยะใกล้ แสดงความเคารพโดยสุภาพบุรพษให้คำนับ แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าทิ้งเข่าลงน้อมรับของลุกขึ้นยืนถอนเท้าขวากลับท่าตรงทำความเคารพ
เดินถอยหลังประมาณ 2-3 ก้าว แล้ววหันหลังกลับ ส่วนสุภาพสตรี ให้ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า ทิ้งเข้าซ้ายลง ประนมมือไหว้ น้อมรับของ ลุกขึ้นยืนถอนเท้าขวากลับในท่าตรง ทำความเคารพเดินถอยหลังประมาณ 2-3 ก้าว หันหลังกลับ
การส่งของให้ผู้ใหญ่
ในขณะที่ผู้ใหญ่ยืน ถ้าเป็นสุภาพบุรุษให้เดินในอาการสำรวมเข้าไปในระยะใกล้พอควรยืนตรงแสดงความเคารพโดยการคำนับก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย
การส่งของให้ผู้ใหญ่
ในขณะที่ผู้ใหญ่ยืน ถ้าเป็นสุภาพบุรุษให้เดินในอาการสำรวมเข้าไปในระยะใกล้พอควรยืนตรงแสดงความเคารพโดยการคำนับก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย
น้อมตัวลงส่งของแล้วถอนเท้าขวากลับในท่าตรงแสดงความเคารพเดินถอยหลังออกมาเล็กน้อยจึงหันหลังกลับ ส่วนถ้าเป็นสุภาพสตรีให้เดินในอาการที่สำรวมเดินเข้าไป
ในระยะใกล้พอควรยืนตรงก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อยย่อตัวลงโดยย่อเข่าซ้ายลงเล็กน้อยน้อมตัวส่งของเมื่อผู้ใหญ่รับของประนมมือไหว้ในขณะที่ยังย่อตัวอยู่ ยืนขึ้นถอยเท้าขวากลับในท่าตรงเดินถอยหลังกลับเล็กน้อยจึงหันหลังเดินกลับ
ขณะที่ผู้ใหญ่นั่ง ถ้าเป็นสุภาพบุรุษให้เดินในอาการสำรวมเข้าไปในระยะใกล้พอสมควรแสดงความเคารพโดยการคำนับก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อยทิ้งเข่าซ้ายลงพื้นน้อมตัวลง
ขณะที่ผู้ใหญ่นั่ง ถ้าเป็นสุภาพบุรุษให้เดินในอาการสำรวมเข้าไปในระยะใกล้พอสมควรแสดงความเคารพโดยการคำนับก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อยทิ้งเข่าซ้ายลงพื้นน้อมตัวลง
ส่งของแล้วยืนขึ้นถอนเท้าขวากลับในท่ายืนตรงแสดงความเคารพเดินถอยหลังเล็กน้อยจึงเดินหันหลังกลับ ส่วนถ้าเป็นสุภาพสตรีให้เดินในอาการสำรวมเข้าไปในระยใกล้พอสมควร หยุดยืนตรง
ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย ทิ้งเข่าซ้ายลงพื้นน้อมตัวส่งของแล้วทำความเคารพโดยการประนมมือไหว้ลุกขึ้นยืนถอนเท้าขวากลับในท่าตรงเดินถอยหลังเล็กน้อยจึงหันหลังเดินกลับ
กรณีที่ผู้ใหญ่นั่งกับพื้น สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน เดินเข่าเข้าไปโดยห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณแล้วนั่งพับเพียบกราบ 1 ครั้ง
กรณีที่ผู้ใหญ่นั่งกับพื้น สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน เดินเข่าเข้าไปโดยห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณแล้วนั่งพับเพียบกราบ 1 ครั้ง
ไม่แบมือหรือยกมือขึ้นไหว้ตามระดับอาวุโสของผู้ใหญ่และถ้ามีการสนทนาด้วยให้นั่งพับเพียบในลักษณะสำรวม และเมื่อผู้ใหญ่ให้สิ่งของก่อนรับของให้ยกมือขขึ้นไหว้ 1 ครั้งแล้วจึงยื่นมือขวารับสิ่งของ
วางสิ่งของที่รับมาไว้ทางด้านขวามือเหนือเข่าเล็กน้อย และเมื่อจะลากลับให้แสดงความเคารพด้วยการกราบหรือไหว้เช่นเดียวกับตอนมาและหยิบของที่วางไว้ด้วยมือขวาและเดินเข่าถอยออกมา
มารยาทไทย
ถือเป็นแนวปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับคนไทยโดยทั่ว ๆ ไปในปัจจุบัน อันที่จริงมารยาทไทยมีรายละเอียดหลายเรื่องที่พึงประพฤติปฏิบัติต่อหน้าผู้ใหญ่ ต่อพระมหากษัตริย์ และต่อพระภิกษุสงฆ์
มารยาทไทย
ถือเป็นแนวปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับคนไทยโดยทั่ว ๆ ไปในปัจจุบัน อันที่จริงมารยาทไทยมีรายละเอียดหลายเรื่องที่พึงประพฤติปฏิบัติต่อหน้าผู้ใหญ่ ต่อพระมหากษัตริย์ และต่อพระภิกษุสงฆ์
แต่หลายขนบธรรมเนียมประเพณีไม่นิยมใช้ในปัจจุบันแล้ว บางมารยาทได้ถูกปรับให้เป็นแบบสากล เช่น การนั่ง การยืน การเดิน และการรับประทานอาหาร
ทั้งนี้มารยาทในสังคมไทยให้ความสำคัญต่อผู้อาวุโส เช่น การเดินผ่านผู้ใหญ่ต้องสำรวมและทำความเคารพก่อน ซึ่งแนวทางปฏิบัติสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะและกับบุคคลต่าง ๆ ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น