กล้องวงจรปิด

รูปภาพของฉัน
บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง รับประกันผลงานตลอดอายุการใช้งาน กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย สอบถามได้ที่ Line ID : @CctvBangkok.com

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเก็บข้อมูลเครื่องบันทึกภาพจาก (กล้องวงจรปิด)

การเก็บข้อมูลเครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด


                          เครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด อภิมหาข้อมูลทำให้เข้าใจและค้นพบได้ ในยุคของข้อมูลเพียงเล็กน้อยทำได้เพียงแค่สมมุติฐานและมีหน้าที่พิสูจน์สิ่งเหล่านั้นด้วยการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล 

ในอนาคตข้างหน้าของพวกเราก็ทำให้เกิดข้อมูลมหาศาลนอกเหนือจากการใช้สมมุติฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลอันมากมายนั้นขึ้นอยู่กับทฤษฏี 

 อาศัยทั้งวิธีการและผลลัพธ์ เริ่มจากการเลือกข้อมูล การตัดสินใจนั้นจากความสะดวกสบาย เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลต้องอาศัยทฤษฏีร่วมด้วยโดยแปลผลและใช้ทฤษฏีอีกครั้ง


การเก็บข้อมูลเครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด

 ในยุคของข้อมูลมหาศาลที่ไม่ยุ่งเกี่ยงกับทฤษฏี เป็นสิ่งที่ต้องการจะแสดงให้เห็นถึงผลที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อมูลจำนวนมากอาจไม่สามารถนำมาซึ่ง “จุดจบของทฤษฏี” 

 ได้ ทำให้เปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น คนมากมายมักจะเชื่อถือการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือดิจิตอลมากกว่า เปลี่ยนการใช้ชิปที่มีความเร็วสูงเป็นซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ 

 สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นเครื่องมือด้วย ด้านเทคนิคก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่มากเหตุผลสำหรับแนวโน้มเหล่านี้คือการมีข้อมูลมากยิ่งขึ้น และเหตุผลที่มีเพิ่มขึ้นก็เพราะเข้าใจมุมมองของความเป็นจริงเกี่ยวกับรูปแบบข้อมูลมากขึ้น

ดาต้าฟิเคชั่น  “ผู้บุกเบิกการเดินเรือ” เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รู้ว่าข้อมูลมหาศาลนั้นมีความพิเศษที่ข้อมูลน้อย ๆ นั้นไม่มี สิ่งนี้คืออนุภาพของอภิมหาข้อมูล 

 หากเจาะจงให้ลึกเขาเข้าใจแล้วว่าบันทึกที่เต็มไปด้วยคราบเกลือแท้จริงมันมีข้อมูลที่ทรงคุณค่าสามารถมาวิเคราะห์คัดแยกและจัดเก็บไว้ได้ และเขายังเป็นผู้บุกเบิกดาต้าฟิเคชั่น

ที่ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีมูลค่า และนำข้อมูลที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หนึ่งมาเปลี่ยนมันให้มีประโยชน์ในอีกแง่มุมหนึ่งได้เช่นกัน 

 วิธีการคล้ายคลึงกับเทคนิคของอภิมหาข้อมูลในยุรนี้มาก เรื่องราวของเขาโดดเด่นสำหรับผู้เห็นความสำคัญของอภิมหาข้อมูล แต่เราจะเข้าใจได้ว่าทำอย่างไรจึงจะได้ข้อมูลจากที่ที่ไม่น่าจะได้

การวิจัยเพื่อนำไปพัฒนาระบบการแปลงข้อมูลมาเป็นดาต้าเพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่พึ่งพาได้และกลายมาเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มหาศาล 

คุณประโยชน์ของมันอาจมีมากมายและดาต้าที่ได้มานี้อาจเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการป้องกัน ระบบที่ว่านี้สามารถตรวจจับและเตือนหรือกระทั่งการป้องกันได้อีกด้วย

คำว่า “ดาต้า” หมายถึง “การให้” หรือ “ข้อเท็จจริง” ทุกวันนี้ ดาต้า หมายถึงสิ่งที่สามารถบันทึกได้ วิเคราะห์ได้ และจัดระเบียบใหม่ได้แต่ไม่มีคำที่เหมาะ ๆ 

 สำหรับวิธีที่นำเอาดาต้าเหล่านี้ไปใช้เราเรียกว่า ดาต้าฟิเคชั่น คือการแปลงดาต้าที่มีอยู่มาปรับรูปแบบในการวิเคราะห์ในแนวทางที่ต่างออกไป 

 สำหรับยุคดิจิตอลแล้วมันต่างออกไปกระบวนการแปลงข้อมูลแบบอนาล็อกไปเป็นเลขฐานสองกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคอมพิวเตอร์แต่ในยุคนี้แหล่งเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาก ๆ 

 ความสามารถในการประมวลผล และแบนด์วิดช์ที่เพิ่มสูงขึ้น สามารถเก็บข้อมูลในรูปแบบอื่น ๆ ได้

การเอาข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ๆ มาใช้นั้นต้องเรียนรู้วิธีการหยั่งวัดและวิธีการที่จะบันทึกข้อมูล ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ต้องผ่านการออกแบบที่ดี 

 และทั้งสองสิ่งนี้คือสิ่งที่จำเป็นต่อดาต้าฟิเคชั่น เราได้พัฒนาสิ่งที่จำเป็นต่อดาต้าฟิเคชั่นมาแล้วก่อนที่จะถึงยุคทองของดิจิตอลเสียอีก

การหยั่งวัดโลกนี้ในเชิงปริมาณ  ความสามารถในการบันทึกข้อมูล ในสมัยก่อนนั้นการบันทึกข้อมูลมีความถูกต้องและแม่นยำสูงเทียบเท่ากับในปัจจุบัน 

 การจดบันทึกในสมัยก่อนนั้นทำให้การค้าเจริญรุ่งเรือง การมีภาษาเขียนทำให้สามารถบันทึกข้อมูล หยั่งวัด และสามารถค้นหาข้อมูลในภายหลังได้ ทั้งการหยั่งวัดและการบันทึกข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของการเก็บข้อมูล และนั่นคือรากฐานของดาต้าฟิเคชั่น

 
การเก็บข้อมูลเครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด

ผ่านมาหลายทศวรรษการวัดพื้นที่ วัดจำนวน และเวลาได้ขยายวงกว้างออกไป ระบบการคำนวณนั้นนำไปวิเคราะห์ต่อได้ยาก ตัวเลขฐานสิบจึงถือกำเนิดขึ้น 

 แต่การคุณหรือการหารเลขจำนวนมาก ๆ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากแม้แต่ผู้ที่ถนัดเรื่องตัวเลข วิธีการคิดเลขอีกแบบถือกำเนิดขึ้นและแพร่หลายไปทั่วและได้รับการปรับปรุงแก้ไขก่อนไปถึงอาหรับ

และนี่เองคือต้นกำเนิดของเลขอารบิค ความรู้และวิทยาการได้แพร่จากตะวันออกไปยังตะวันตก สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือระบบเลขอารบิคและได้รับการถ่ายทอดสู่ภาษาละติน และทั่วยุโรป ก่อนที่จะไปสู่วงการคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์ได้มอบนิยามใหม่ให้แก่ดาต้า เพราะต่อมาดาต้าสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ ไม่ใช่เพียงแต่บันทึกและไว้ใช้ค้นหา นักคณิตศาสตร์ได้โอ้อวดว่าสามารถคำนวณเลข

ในปริมาณเดียวกันแต่เร็วมากกว่าการนับด้วยเหรียญและกระดานนับถึง 6 เท่าด้วยเลขอารบิคแสดงให้เห็นว่าประสบความสำเร็จด้วยดาต้าฟิเคชั่น นั่นก็คือระบบบัญชีคู่

ในปัจจุบันระบบบัญชีคู่ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของวงการบัญชีและการเงิน ยังเป็นตัวแทนของการใช้ดาต้าอีกด้วย คือการแบ่งข้อมูลในรูปแบบของ “หมวดหมู่” 

 และสามารถนำไปเชื่อมโยงกับระบบบัญชีได้ในภายหลัง สิ่งนี้ถือเป็นกฏในการบันทึกข้อมูล ช่วยให้การประมวลผลและการคิดคำนวณเกิดขึ้นได้ง่ายและเร็ว 

 ทั้งยังสามารถตามที่มาของข้อมูลได้โดยง่าย การหยั่งวัดและการบันทึกข้อมูลถือเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ดาต้าฟิเคชั่นยุคใหม่เจริญงอกงามขึ้นมาได้ 

 ในยุคปัจจุบันที่การเก็บข้อมูลรุดหน้าไปไกลทั้งเรื่องของวิธีการและการจัดเก็บ ยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในดาต้าฟิเคชั่นมากขึ้น

เมื่อถ้อยคำกลายเป็นดาต้า ความแตกต่างระหว่างดิจิไทเซชันกับดาต้าฟิเคชั่น สังเกตได้อย่างชัดเจนเมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์ เช่น กูเกิลได้ประกาศแผนการค้นหาข้อมูลข้อมูล

ในหนังสือออนไลน์ฟรี เพื่อจะทำภารกิจให้ลุล่วงต้องร่วมมือกับห้องสมุดขนาดใหญ่และพัฒนาเครื่องสแกนมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเครื่องสแกนสามารถพลิกหน้าหนังสือได้

โดยอัตโนมัติเพื่อสแกนหนังสือนับล้านเล่มและเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ทุกทีทุกเวลาและสามารถนำข้อมูลจากหนังสือมาใช้อ้างอิง

ในงานที่เราต้องการได้ แต่ไม่สามารถค้นหาคำเฉพาะได้เพราะเนื้อหาในหนังสือไม่ได้ถูกแปลงเป็นไฟล์ดิจิตอล เมื่อเรามีเครื่องมือชั้นดียุคดิจิตอลอย่างกูเกิลก็ยังไม่พอใจเขาเข้าใจว่า

ข้อมูลเหล่านั้นอาจมีค่ามากกว่าหากมันถูกแปลงเป็นไฟล์ดิจิตอลอย่างแท้จริง กูเกิลจึงใช้โปรแกรมเพื่อสามารถจดจำและแยกแยอะตัวอักษรที่สแกนมาเพื่อแปลงออกมาเป็นคำศัพท์และประโยค 

 ผลที่ได้ก็คือไฟล์หนังสือที่เป็นไฟล์ดิจิตอลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงภาพของหน้าหนังสือ และข้อมูลนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อคนเราเพียงอย่างเดียว

แต่ยังมีประโยชน์ต่อการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลของคอมพิวเตอร์อีกด้วย ดาต้าฟิเคชั่นทำให้เนื้อหาในหนังสือได้รับการจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการค้นหา

เราสามารถค้นได้ว่าคำศัพท์หรือวลีนั้นถูกใช้เป็นครั้งแรกที่ไหน ความรู้เหล่านี้เป็นไอเดียของคนที่คิดขึ้นมาได้นานนับศตวรรษ หลังจากที่กูเกิลได้เริ่มโครงการสแกนหนังสือ 

 เรื่องนี้จุดประกายให้กับวงการการศึกษาวิชาการแนวใหม่เป็นการศึกษาแนวใหม่ซึ่งเป็นการศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมของคนและกระแสของวัฒนธรรมผ่านหนังสือจำนวนมหาศาล



 


สินค้าแนะนำระบบรักษาความปลอดภัย  : กล้องวงจรปิด   รั้วไฟฟ้า   สัญญาณกันขโมย

 

การแปลงถ้อยคำไปเป็นดาต้าช่วยปลดปล่อยประโยชน์ ดาต้านั้นสามารถอ่านได้โดยมนุษย์หรือเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ แต่วงการอภิมหาข้อมูลอย่างกูเกิลรู้ว่าข้อมูลนั้นมีศักยภาพในหลายทิศทาง 

 และสามารถจัดหมวดหมู่และทำดาต้าฟิเคชั่นให้ได้ กูเกิลจึงใช้ไฟล์หนังสือดิจิตอลที่มีอยู่นี้มาปรับปรุงซอฟต์แวร์แปลภาษาที่พัฒนาขึ้นอย่างที่อธิบายไปแล้ว 

 กูเกิลไม่ได้เป็นองค์กรเดียวที่นำเอางานเขียนซึ่งถือเป็นมรดกโลกมาใช้ในยุคคอมพิวเตอร์อย่างปัจจุบันนี้แต่เป็นสิ่งที่ยากจะทำเท่านั้นเอง

การแปลงหนังสือให้เป็นไฟล์ดิจิตอล ไม่เหมือนกูเกิลตรงที่ฝ่ายแรกไม่ได้แปลงหนังสือเป็นดาต้าซึ่งนำเอาไปใช้ในรูปแบบอื่นได้ ได้มีผู้เกลี้ยกล่อม

ให้สำนักพิมพ์หลายร้อยสำนักพิมพ์ออกหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบที่อ่านได้ซึ่งเป็นไฟล์ดิจิตอลจริง ๆ ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายของหน้าหนังสือ 

 ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนขนาดตัวอักษร หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ถูกแกะออกมาเป็นดาต้าเลยไม่ใช่แค่เพียงไฟล์ดิจิตอลทั่วไปในขณะที่ถูกกูเกิลพยายามที่จะรวบรวมหนังสือเก่า

บริการอันน่าทึ่งที่สามารถ “ค้นหาคำสำคัญในหนังสือ” ใช้ระบบอัลกอริทึมในการค้นหาไปตามชื่อหนังสืออาจจะไม่ได้พบง่ายนัก 

 ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์นี้ยังไม่ได้ใช้ถ้อยคำเหล่านั้นมาวิเคราะห์ พวกเขามองธุรกิจหนังสือว่าเป็นเรื่องของคอนเทนต์สำหรับให้คนอ่านมากกว่าที่จะมองหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นไฟล์ดาต้า

อาจจะเป็นเพราะว่าสำนักพิมพ์ต้องการสงวนเนื้อหาในหนังสือ ในขณะที่กูเกิลพยายามที่จะผลักไสข้อจำกัดนั้นออกไป แต่ความจริงแล้วความนิยมของผู้ใช้งานต่างหากที่สำคัญ 

 แต่อย่างน้อยก็เข้าใจเรื่องคุณค่าของการแปลงคอนเทนต์เป็นไฟล์ดิจิตอล ในขณะที่กูเกิลเข้าใจคุณค่าของการแปลงเป็นดาต้า

เมื่อสถานที่กลายมาเป็นดาต้า ข้อมูลบนโลกหลายศตวรรษที่ข้อมูลทางธรณีวิทยาไม่ได้รับการบันทึกไว้ในรูปแบบของดาต้า มีแค่ข้อมูลบอกว่าภูเขาอยู่ตรงไหน 

 ชุมชนอยู่ที่ใด แต่ไม่เคยนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการแปลงไปเป็นดาต้า การแปลงข้อมูลสถานที่ไปเป็นดาต้าต้องอาศัยตัวช่วยเราต้องอาศัยเครื่องมือที่สอดส่องและบันทึกข้อมูลได้ 

 และในการที่จะทำให้บันทึกเกี่ยวกับสถานที่นั้นประสบผลสำเร็จต้องอาศัยการสร้างมาตรฐานซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลายาวนาน

ความเปลี่ยนแปลงได้เริ่มขึ้นเมื่อดาวเทียมดวงแรกใช้ระบบ GPS ระบบนี้เป็นการรับส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมเพื่อบอกพิกัดได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่มีปัจจัยอื่นเป็นตัวแปร 

 ความถูกต้องแม่นยำของระบบช่วยให้การค้าเฟื่องฟู ความแม่นยำนี่ถือเป็นความฝันของเนวิเกเตอร์นำทำแผนที่ที่การระบุตำแหน่งหรือหาพิกัดได้ง่าย รวดเร็ว 

 และยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงอีกด้วย โลกได้เปลี่ยนไปแล้วต้องขอบคุณชิปที่สามารถฝังอยู่ในอุปกรณ์ยุคดิจิตอล และทำให้ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเพื่อค้นหาตำแหน่งต่าง ๆ บนโลก

รวมถึงพิกัดที่หลายคนคาดว่าจะเป็นที่ตั้งของโครงการลับในรัฐเนวาดาสถานที่ลือกันว่าเป็นที่เก็บยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวเอาไว้ และวันนี้ GPS 

 ไม่ใช่ระบบเดียวที่สามารถตรวจหาพิกัดได้ยังมีคู่แข่งอีกมากที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา เนื่องจากตัวรับสัญญาณติดตั้งอยู่ตามตึกสูงหรือเครื่องส่งสัญญารไวไฟ เพราะ GPS 

 อาจทำงานได้ไม่นักเมื่ออยู่ในอาคารจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมกูเกิลและไมโครซอฟท์ติดตั้งระบบค้นหาตำแหน่งในตัวเพื่อเสริมประสิทธิภาพกับระบบ GPS ในกูเกิลฯ 

จะรวบรวมภาพถ่ายของพื้นที่ต่าง ๆ และเมื่อมีคนถ่ายและอัพโหลดผ่านระบบมือถือเรียกว่าเป็น “มือถือสายลับ” ที่สามารถรวบรวมข้องมูลของตำแหน่งที่กดแชร์และส่งข้อมูลนั่นกลับมา





โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยว่าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลและวินโดว์โฟนก็เก็บข้อมูลทำนองนี้เหมือนกัน

ดาต้าฟิเคชั่นของสถานที่สามารถนำมาใช้กับคนได้หลายกลุ่ม ดาต้าที่เก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สายได้นำมาใช้ปรับปรุงบริการในงานของเขา 

 แอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนยังสามารถเก็บข้อมูลสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นนั้น ๆ และในหลาย ๆ กรณียังช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ดียิ่งขึ้น 

 การที่ผู้ใช้เก็บสะสมบันทึกของแต่ละสถานที่นั้นกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงทำให้เราสามารถเจาะการทำโฆษณาเฉพาะกลุ่มหรือทำนายพฤติกรรมของผู้บริโภคและรวมถึงแนวโน้มของตลาด

เมื่อการปฏิสัมพันธ์กลายมาเป็นดาต้า ดาต้าฟิเคชั่นเป็นเรื่องใกล้ตัวนั่นก็คือความสัมพันธ์ของเรา ประสบการณ์ และอารมณ์ของเราเอง 

 ไอเดียถือเป็นหัวใจสำคัญของโซเซียลมีเดียต่าง ๆ การที่ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเพื่อนหรือติดต่อกับคนที่รู้จักได้ง่ายขึ้น แต่ยังนำเอาองค์ประกอบอันซับซ้อน

ในชีวิตประจำวันของเรามาแปลงเป็นดาต้าและนำเอาไปใช้ในเรื่องอื่น ๆ

เฟชบุ๊กนั้นแปลงข้อมูลความสัมพันธ์เป็นดาต้าและแสดงผลออกมาเป็น “กราฟสังคม” ขณะที่ทวิตเตอร์ทำให้เกิดดาต้าฟิเคชั่นโดยการสร้างสรรค์วิธีการที่จะทำให้ผู้คนบันทึกและแชร์ความคิด

นอกกรอบของตัวเองได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ลิงค์อินบันทึกข้อมูลและประสบการณ์การทำงานเปลี่ยนข้อมูลให้สามารถนำมาพยากรณ์อนาคตคนที่เราอาจจะรู้จักหรืองานที่เราอยากได้

การใช้ดาต้าเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในกรณีของเฟชบุ๊กเองการที่รู้ว่าข้อมูลของตัวเองถูกนำไปใช้ในแง่มุมอื่น ๆ อาจทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง 

 อีกอย่างเฟชบุ๊กเองก็ยังอยู่ในช่วงปรับโมเดลธุรกิจ ในตอนนี้เฟชบุ๊กมีผู้ใช้ราวหนึ่งพันล้านคนซึ่งมีเครือข่ายความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ถึงหนึ่งแสนล้านความสัมพันธ์และต่อไปเฟชบุ๊กอาจจะกลายเป็นผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยี

การวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ สืบเนื่องมาจากฐานข้อมูลมหาศาลที่เป็นมากกว่าพื้นที่ออนไลน์สำหรับแชร์ภาพ อัพเดตความเคลื่อนไหวและการกด “ไลค์” 

 ทวิตเตอร์ก็เช่นกันที่เห็นว่าดาต้านั้นเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ทวิตเตอร์สามารถแปลงความคิด อารมณ์ และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไปเป็นดาต้าที่แสนจะมีประโยชน์ 

 ธุรกิจที่ใช้ทวิตเตอร์เป็นตัววิเคราะห์เสียงตอบรับจากลูกค้าหรือเป็นเครื่องตัดสินว่าแคมเปญโฆษณาที่ปล่อยออกไปนั้นเป็นที่สนใจมากเพียงไหน

ดาต้าฟิเคชั่นไม่ใช่เรื่องการดึงเอาทัศนคติหรือความเชื่อในรูปแบบของการวิเคราะห์ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ด้วยแม้จะทำได้ยาก

โดยเฉพาะในสังคมที่มีขนาดใหญ่และมีกลุ่มย่อยมากมาย มีนักชีววิทยาและวิศวกรด้านซอฟต์แวร์วิเคราะห์การทววิตเพื่อหาทัศนคติเกี่ยวกับการงานวิจัยของพวกเขาต้องพึ่งเมต้าดาต้า

เป็นสำคัญก่อนที่จะก้าวไปยังขั้นต่อไปและทำให้งานวิจัยน่าสนใจกว่างานชิ้นอื่น ๆ ซึ่งล้วนใช้ข้อมูลจากความเชื่อและอารมณ์

การเก็บข้อมูลเครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด

 รวมทั้งพฤติกรรมด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลทั้งสิ้น การค้นพบนี้สามารถบอกได้ว่าทิศทางของดาต้าฟิเคชั่นจะเป็นไปในทิศทางไหน ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล เฟชบุ๊ก ทวิตเตอร์ ลิงค์อิน 

 หรือโฟว์สแควร์ ข้อมูลนั้นได้รับการวิเคราะห์ในทิศทางที่ถูกต้อง แน่นอนว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกระดับ ตั้งแต่รายบุคคลไปจนถึงระดับสังคมเลยทีเดียว

ดาต้าฟิเคชั่นของทุกสิ่ง ข้อมูลที่สามารถแปลงออกมาอยู่ในรูปของดาต้าได้ ผลงานในโตเกียว การที่ IBM ได้สิทธิบัตรเรื่อง “การอ้างอิงหลักฐานด้านความปลอดภัย

โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ด้านพื้นผิว” คือภูมิปัญญาที่มีลิขสิทธิ์ตามที่วงการกฏหมายจะเรียกสำหรับพื้นผิวที่ไวต่อสัมผัส เช่น หน้าจอสมาร์ทโฟนศักยภาพในการใช้งานมีมากมายสามารถระบุได้ว่าวัตถุที่สัมผัสคือวัตถุชนิดไหน

 เมื่อพื้นฐานเป็นสิ่งที่สามารถแปลงเป็นข้อมูลซึ่งสามารถเอามาใช้ในรูปแบบอื่นได้เมื่อนั้นก็จะไม่มีเพดานที่จำกัดการใช้ดาต้าอีกต่อไป 

 เรามีสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ที่ราคาไม่แพง ดาต้าฟิเคชั่นจึงถือเป็นการลงมือที่สำคัญจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นและง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

 ทำให้ผู้คนสำรวจการหลับของตนเองได้ด้วยการวัดคลื่นสมองในระหว่างที่หลับและได้ค้นพบความแตกต่างของการหลับระหว่างเพศหญิงและเพศชาย ได้ติดเซ็นเซอร์กับที่พ่นยาเพื่อตรวจจับสถานที่ผ่าน GPS เพื่อให้เข้าใจว่าสภาพแวดล้อมแบบไหนที่ทำให้เกิดโรคนี้

เราเรียนรู้อีกมากผ่านการเก็บข้อมูลเป็นดาต้าในเรื่องร่างกายมนุษย์เพื่อตรวจจับท่าทางการเดินจำเพาะของบุคคล และนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาระบบความปลอดภัย

สำหรับการปลดล็อกโทรศัพท์ ในขณะที่นักวิจัยก็กำลังประดิษฐ์แอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นเหมือนมิเตอร์วัดความเร่งเพื่อตรวจจับระดับความเจ็บปวดในผู้ป่วยหรือความผิดปกติ แอพพลิเคชั่นนั้นมีประโยชน์มาก

 แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในสมาร์ทโฟนนั้นมีประสิทธิภาพจึงถือเป็นเครื่องมือที่พึ่งพาได้ และที่แหล่งข้อมูลอันยุ่งเหยิงซับซ้อนให้ผลดี ข้อมูลที่มีอยู่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาอยู่ในรูปแบบของดาต้า

เมื่อไรศักยภาพในการใช้งานดาต้าก็จะจำกัดอยู่แค่ภูมิปัญญาของผู้ที่นำมาใช้เท่านั้น แต่ในทุกวันนี้เรามีเครื่องมือและยังมีอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ใช้จัดการงานได้อย่างรวดเร็ว ในยุคอภิมหาข้อมูลไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

การมองโลกเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของความเป็นจริงอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน สังคมของเรา

ในวันนี้เป็นสังคมแห่งการคำนวณเราจึงละเลยความรู้ที่ถ่ายทอดผ่านกาลเวลา คนรุ่นต่อไปอาจจะ “ตระหนักรู้ถึงอภิมหาข้อมูล” คือทุกสิ่งที่เราทำมีองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือดาต้าเป็นสิ่งที่สังคมจะได้เรียนรู้ข้อมูลนับล้านในมิติต่าง ๆ

สามารถแปลงไปอยู่ในรูปของดาต้าได้เป็นแค่ความฝันในปัจจุบัน แต่ในอนาคตเมื่อเวลาผ่านไปแรงสะท้อนของดาต้าฟิเคชั่นอาจถูกย่อให้เหลืออยู่แค่ในหน้าหนังสือพิมพ์ 

 สื่อสิ่งพิมพ์ หรืออินเทอร์เน็ตที่ทำให้เราเข้าใจว่าเป็นแค่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณทั่วไปเท่านั้น ในขณะนักธุรกิจหัวก้าวหน้าที่นำดาต้าฟิเคชั่นมาใช้ในธุรกิจก็กำลังทำให้อภิมหาข้อมูลมีคุณค่ามากขึ้นในอีกรูปแบบหนึ่ง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น