CPTED (Crime Prevention Through Environmental Design)
การรักษาความปลอดภัยจุดประสงค์เพื่อทำให้ผู้โจมตีเชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการโจมตีนั้นสูงกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโจมตีขั้นแรกของการป้องกันอาคาร สถานที่ หรือพื้นที่ โดยการใช้การออกแบบเพื่อยับยั้งหรือป้องกันภัยคุกคามไม่ให้เกิดขึ้น
สิ่งที่ได้จากการทำ CPTED เป็นแนวทางในการออกแบบสภาพแวดล้อมทางกายภาพเพื่อลดอาชญากรรม จะแตกต่างจากการเสริมเกราะ
ป้องกันเป้าหมายซึ่งสภาพแวดล้อมบางอย่างสูญเสียความสะดวกสบายและความสวยงามไป CPTED
- การควบคุมการเข้าออกโดยธรรมชาติ
- การเฝ้าระวังโดยธรรมชาติ
- การเสริมเกราะป้องกันขอบเขต
การควบคุมการเข้าออกโดยธรรมชาติ การบังคับแนวการเข้าออกอาคารสถานที่ การออกแบบตาม CPTED การกำหนดพื้นที่รักษาความปลอดภัย
แบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อย คือ
- การควบคุมการเข้าออกโดยธรรมชาติ
- การเฝ้าระวังโดยธรรมชาติ
- การเสริมเกราะป้องกันขอบเขต
การควบคุมการเข้าออกโดยธรรมชาติ การบังคับแนวการเข้าออกอาคารสถานที่ การออกแบบตาม CPTED การกำหนดพื้นที่รักษาความปลอดภัย
โดยการกำหนดระดับความสำคัญของพื้นที่ และกำหนดว่าใครบ้างที่มีสิทธิ์เข้าพื้นที่ โดยระดับนั้นอาจแบ่งออกเป็นสี่ระดับ คือ พื้นที่ควบคุมพื้นที่หวงห้าม
พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน แต่ละพื้นที่นั้นจะต้องกำหนดมาตรการควบคุมการเข้าออกพื้นที่ การเสริมเกราะป้องกันขอบเขต
เป็นการสร้างให้คนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของสถานที่และทำให้ผู้บุกรุกกรู้สึกไม่คุ้นกับสถานที่และไม่อยากอยู่นานถ้าคิดที่จะทำผิด
การควบคุมการเข้าออก สิ่งป้องกันแบบเครื่องกลเป็นขั้นตอนต่อมา เช่น ประตู และการล็อคประตูแบบต่าง ๆ
การควบคุมการเข้าออก สิ่งป้องกันแบบเครื่องกลเป็นขั้นตอนต่อมา เช่น ประตู และการล็อคประตูแบบต่าง ๆ
และเมื่อมีคนใช้จำนวนมากอาจไม่สามารถติดตามว่าใครไขกุญแจเข้าออกเมื่อไร จึงเปลี่ยนมาใช้การล็อคแบบอิเล็กทรอนิกส์
การควบคุมกมาเข้าออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ทำให้การบริหารจัดการง่าย ระบบสามารถกำหนดช่วงเวลาในการเข้าออกได้และรหัสที่ได้นั้นอาจมีอายุการใช้งาน
เมื่อถึงเวลาก็จะหมดอายุทำให้ใช้งานต่อไปไม่ได้ การควบคุมการเข้าออกอีกแบบคือการควบคุมด้วยนโยบาย
เมื่อถึงเวลาก็จะหมดอายุทำให้ใช้งานต่อไปไม่ได้ การควบคุมการเข้าออกอีกแบบคือการควบคุมด้วยนโยบาย
กระบวนการและระเบียบปฏิบัติเพื่อใช้สำหรับการควบคุมการเข้าพื้นที่หวงห้ามเฉพาะ และอาจเป็นส่วนที่เพิ่มไปในชั้นของการรักษาความปลอดภัย
ปัจจุบัยการควบคุมการเข้าออกสะพานที่นิยมใช้ มักเป็นระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติควบคู่ไปกับการใช้กล้อง CCTV
เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และตรวจสอบย้อนหลัง ระบบควบคุมการเข้าออกอัตโนมัติจะควบคุมการเปิดปิดประตูแบบอัตโนมัติ โดยผู้ใช้ต้องพิสูจน์ตัวตน
ขั้นตอนการพิสูจน์ทราบตัวตนอาจใช้ การคีย์รหัสผ่านหรือใช้คีย์การ์ด หลังจากพิสูจน์ทราบตัวตนผ่านระบบก็จะเปิดประตูโดยอัตโนมัติ
การตรวจจับการบุกรุก เป็นขั้นตอนที่สาม คือการเฝ้าระวังภัยหรือความพยายามจะบุกรุกหรือโจมตี
ขั้นตอนการพิสูจน์ทราบตัวตนอาจใช้ การคีย์รหัสผ่านหรือใช้คีย์การ์ด หลังจากพิสูจน์ทราบตัวตนผ่านระบบก็จะเปิดประตูโดยอัตโนมัติ
การตรวจจับการบุกรุก เป็นขั้นตอนที่สาม คือการเฝ้าระวังภัยหรือความพยายามจะบุกรุกหรือโจมตี
ซึ่งอาจคิดว่านี้ไม่ใช่เป็นการป้องกันแต่เป็นการป้องปรามมากกว่า ซึ่งบางระบบของการตรวจจับการบุกรุกอาจมีข้อผิดพลาดสูง
ผู้ที่ดูแลระบบในการวิเคราะห์เหตุการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเหตุการณ์จริงก่อนที่จะดำเนินการ สิ่งที่ทำให้ระบบทำงานเข้ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเฝ้าระวังการแจ้งเตือนการบุกรุกและดำเนินการตามขั้นตอนเมื่อเกิดเหตุการณ์ แฃะการดูกล้องวงจรปิด การแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น
การแยกแยะระหว่างผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่อาจใช้สัญญลักษณ์แสดงตัวตนโดยเฉพาะในพื้นที่หวงห้ามต้องมีระเบียบบังคับให้ผู้คนต้องติดป้ายแสดงตัวตน
การเฝ้าระวังสถานการณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามพื้นที่เสี่ยง อาจใช้กล้อง CCTV ช่วยบันทึกภาพในจุดที่มีความเสี่ยงสูง
การเฝ้าระวังการแจ้งเตือนการบุกรุกและดำเนินการตามขั้นตอนเมื่อเกิดเหตุการณ์ แฃะการดูกล้องวงจรปิด การแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น
การแยกแยะระหว่างผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่อาจใช้สัญญลักษณ์แสดงตัวตนโดยเฉพาะในพื้นที่หวงห้ามต้องมีระเบียบบังคับให้ผู้คนต้องติดป้ายแสดงตัวตน
การเฝ้าระวังสถานการณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามพื้นที่เสี่ยง อาจใช้กล้อง CCTV ช่วยบันทึกภาพในจุดที่มีความเสี่ยงสูง
โดยจุดประสงค์ของการเฝ้าระวัง การทำให้ผู้ไม่หวังดีรู้สึกว่ากำลังถูกจับตาอยู่ทำให้ไม่กล้าทำผิด และในขณะเดียวกันก็ทำให้คนทั่วไปรู้สึกปลอดภัย
การออกแบบพื้นที่ให้โล่งและกว้างสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลซึ่งทำให้รู้สึกว่าปลอดภัยได้เช่นกัน
การป้องกันในขั้นตอนสุดท้ายคือการบันทึกเหตุการณ์ด้วยกล้องวงจรปิด CCTV แต่การติดกล้องวงจรปิดนั้นอาจใช้เป็นสิ่งป้องปรามได้
การป้องกันในขั้นตอนสุดท้ายคือการบันทึกเหตุการณ์ด้วยกล้องวงจรปิด CCTV แต่การติดกล้องวงจรปิดนั้นอาจใช้เป็นสิ่งป้องปรามได้
สิ่งที่เป็นการป้องกันจริง ๆ เกิดจากการดำเนินการหลังจากตรวจพบภัยคุกคามหรือสิ่งผิดปกติมากขึ้น แต่ปัจจุบันสัญญาณกล้องวงจรปิดนั้นจะส่งผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น