การออกแบบห้องควบคุมกล้องวงจรปิด (control room forcctv) ในสมัยก่อนนั้นที่เทคโนโลยีระบบเครือข่ายยังไม่มีบทบาทกับ
ระบบกล้องวงจรปิดมากนัก ทำให้ระบบกล้องวงจรปิดในยุคก่อนเป็นเหมือนเพียงระบบ Standalone
ก็ว่าได้เพราะการจะนำภาพไปดูในที่ห่างไกลนั้นทำได้ยากมากๆ
เพราะทุกอย่างต้องมีการเดินสายภาพไปยังจุดที่จะรับภาพหรือจอมอนิเตอร์ซึ่งอยู่หากไกลมากก็ทำไม่ได้ดังนั้นเพือแก้ไขปัญหาของการนำภาพไปแสดงบนจอรับภาพที่วางอยู่บนโต๊ะสำหรับเฝ้าสังเกตุการณ์
ที่ต้องมีการใช้พื้นที่เพือจัดวางโต๊ะและจอ
จึงมีการคิดค้นวิธีการที่จะใช้พื้นที่ในแนวตั้งเพื่อให้แสดงภาพได้ด้วย จึงได้เกิดความคิดที่จะนำจอมาติดตั้งบนผนังเพื่อใช้เฝ้าระวังและสังเกตุการณ์ต่างๆ
ของระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในยุคก่อนหากติดตั้งกล้องสัก 60-70 ตัว
ในหน่วยงานที่ต้องการเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยและมีการมองหน้าจอเพื่อดูเหตุการณ์ที่จะเกิดตลอดเวลานั้น ก็ต้องมีการติดตั้งจอบนผนังเพราะลำพังจอรับภาพบนโต๊ะ
5-6 จอ
นั้นคงดูไม่เพียงพอ
หรือบ้างท่านอาจคิดว่าแล้วทำไม่ไม่เปิดทีละ 32 ภาพเหละต่อจอ
แค่สองจอก็ดูได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงที่พบคือว่า
ปรกติแล้วหากจะดูภาพแล้วได้รายละเอียด
ระบุชี้ชัดว่าใครเป็นใครนั้นก็ต้องดูภาพเพียง 4 ภาพใน 1 หน้าจอเท่านั้นถึงจะชัดเจน ดูง่ายที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไประบบเครือข่ายเข้ามามีบทบาทกับระบบกล้องวงจรปิด
(CCTV) มากขึ้นโดยเฉพาะในบ้านเรามีความแพร่หลาย
ทำให้าการนำภาพไปดูในสถานที่ต่างๆ นั้นทำได้ง่ายขึ้น
แต่ความสำคัยของห้องควบคุมที่มีการติตตั้งจอผนังกลับไม่ลดลง
เพียงแต่เป็นการทำห้องให้มีขนาดพอเหมาะ พอควร
และดูภาพในพื้นที่ที่ได้รับผิดชอบเท่านั้น จึงส่งผลให้ทุกวันนี้ ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด
(CCTV) นั้นจะมีการติดตั้งห้องควบคุมที่มีการติดตั้งจอผนัง
หลายห้องมากขึ้น เพราะด้วยความสามารถใช้งานผ่านระบบเครือข่าย
ที่ลดการเดินสายได้มาก
และด้วยธรรมชาติของผู้ใช้งานเองด้วยที่หากมองอะไรเป็นมุมกว้างจะทำให้ความอ่อนล่า
เหนือยหน่าย ลดลงพอสมควร จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพการสังเกตุการณ์มากขึ้น
หากมสองในแง่ของการลงทุนผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนนั้น ถือว่าคุ้มค่า
เพราะได้ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานสังเกตุการณ์
และลดต้นทุนในการเดินสายสำหรับระบบที่เป็นเน็ตเวิร์ค
ไม่ได้เป็นสูตรตายตัวนะครับ เอาเป็นว่าสะดวก สบายสำหรับผู้ใช้งานเข้าไว้
1. จอผนังไม่ควรห่างจากแหล่งกำเนิสัญญาณภาพ
เพราะทุกวันนี้สายสัญญาณภาพที่ออกมาจากจอผนังหรือจากเครืองบันทึกกล้องวงจรปิด
มายังจอมักนิยมใช้สาย HDMI ซึ่งสายมักจะเดินได้ไม่ไกลมาก
เพราะถ้าสายยิ่งไกล ราคาก็จะยิงแพงมา
ล่าสุดที่เคยใช้อยู่ยาวประมาณ 15 เมตร
ราคาตกประมาณเกือบ 3000 บาท อันนี้เลือกชนิดสายแบบธรรมดา คุณภาพกลางๆ
2. ไม่ควรให้จอภาพที่วางบนโต๊ะบังหน้าจอที่อยู่บนผนังห้อง โดยโต๊ะวางจอควรห่างจากจอผนักอย่างอน้อยสัก 2-3
เมตร
เพื่อไม่ต้องก้มเงยหน้ามากไปเวลา มองจอ
3. ระยะการมองภาพไม่ควรกว้างมากกว่า 3 เมตร ต่อ 1 ท่าน
เพราะหากเกินจะทำให้ต้องเอียงหน้าไปมาเพื่อทำการดูภาพ พอดูไปนานๆ แล้วจะเมือย